สัมภาษณ์เพจแห่งปี : “เฮ้ย! นี่มันตัดต่อชัด ชัด” กับประเด็นการล้อเลียนและก๊อบปี้

คุยกับแอดมินเพจ “เฮ้ย! นี่มันตัดต่อชัด ชัด” เพจที่นิยามตัวเองว่า "เอาฮาธิปไตย" พร้อมที่มาของวาทะที่ว่า "เฟซบุ๊กคือการแชร์ในโลกออนไลน์ ถ้าไม่อยากให้ก๊อบก็อย่าเอารูปมาลง" เหตุผลการแบนแฟนเพจและมุมมองต่อการระดมรีพอร์ต เป็นต้น

รูปประจำตัวเพจ

หลังจากที่มีการประกาศผลโหวต 10 แฟนเพจเฟซบุ๊ก ปี 2012 ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจของประชาไทได้ตั้งไว้ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับบทสัมภาษณ์แอดมินเพจ Drama-addict เพจ โหดสัส V2 เพจ สมมรัก พรรคเพื่อเก้ง เพจ Dora GAG และเพจ “ออกพญาหงส์ทอง” ไปแล้วนั้น ในครั้งนี้ถึงคราวพูดคุยกันชัดๆ แบบไม่ตัดต่อ กับแอดมินเพจ “เฮ้ย! นี่มันตัดต่อชัด ชัด” ที่เรียกตัวเองว่า "เอาฮาธิปไตย"

18,769 คือจำนวนโหวตที่เพจนี้ได้ เป็นเพจที่ตั้งเป็นประเภทศิลปิน ที่มี การกดถูกใจ  246,423 (ข้อมูล 27 ม.ค.56)เป็นเพจที่ล้อเลียนเสียดสีสังคม โดยใช้เทคนิคการตัดต่อภาพกราฟฟิกที่สวยงาม บวกอารมณ์ขันในสไตล์ "ช็อตเดียวเอาอยู่" โดยเขาอธิบายตัวเองว่า “ทำกราฟฟิคภาพตัดต่อ เสียดสีสังคม แขวะการเมือง ล้อหนัง ล้อละคร เพื่อสร้างความฮาในสังคมที่วุ่นวาย คลายเครียดแต่ดราม่าพอประมาณ”

สำหรับประเด็นในการสัมภาษณ์นั้น ประกอบด้วย ทิศทางแนวโน้มปี 2013, การโหวตเพจแห่งปี, การละเมิดลิขสิทธิ์, การระดมรีพอร์ตใน facebook, การแบนคนในเพจและการเอาข้อมูลส่วนตัวของบุคคลธรรมดามาเผยแพร่ให้สาธารณะ เป็นต้นโดยเขาได้ตัดต่อร้อยเรียงเป็นคำตอบออกมาชัดๆ ได้น่าสนใจดังนี้

0000

รูปภาพหน้าปกเพจขณะนี้ล้อเลียนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ประชาไท : คิดอย่างไรกับอีก 9 เพจที่อยู่ใน 10 เพจแห่งปีที่คนโหวตกับประชาไท(ดู)

แอดมินเพจ “เฮ้ย! นี่มันตัดต่อชัด ชัด” : คิดว่าเพจแต่ละเพจที่ติดเข้ามา ผมว่าทุกเพจมีคอนเทนท์และจุดยืนจุดเด่นกันทุกเพจ เพราะปัจจุบัน เพจส่วนมากจะมีแต่เพจที่ก๊อบรูปกันไปก๊อบรูปกันมา เวียนเทียน เห็นกันจนเบื่อ บางเพจก็ลงรูปเด็กพิการ หมาป่วย ทหารตาย รูปกองเงิน รูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาขอไลค์โดยที่ไม่มีจุดยืนหรือทำผลงานเองแทบทั้งนั้น

ส่วนเพจที่ติด 10 อันดับ ผมว่าแต่ละเพจมีแฟนเพจที่ติดตามอย่างเหนียวแน่น เข้าใจจุดยืนแอดมินขอแต่ละเพจ ที่สร้างความแตกต่างจากเพจทั่วไปครับ

ภาพล้อเลียนการโหวตแฟนเพจโดยเพจ เฮ้ย! นี่มันตัดต่อชัด ชัด

ในฐานะที่เป็นแอดมินภูมิใจไหมที่มีคนสนใจเพจคุณ คิดว่าที่ทำไปเกิดผลอะไรกับสังคมบ้าง เอาแรงบันดาลใจมาจากไหน ก่อนและหลังทำ มีอะไรเปลี่ยนไปในชีวิตบ้าง

ผมรู้สึกภูมิใจนะครับ ที่มีคนเสพแล้วชอบผลงานของผม ซึ่งบางผลงานแต่ละชิ้นก็มีทั้งชมแล้วก็ทั้งด่าบ้าง แต่ถ้าผลงานไหนโดนวิจารณ์มากเข้า ผมก็จะแถลงชี้แจงว่าทำไมถึงทำผลงานนี้ขึ้นมา

ส่วนตัวผมคิดว่าสิ่งที่ทำไปมันอาจมีผลในสังคมบ้างไม่มากก็น้อย เพราะรูปส่วนใหญ่ที่ตัดต่ออกมา มักจะหยิบเอาข่าวที่เป็นประเด็นในช่วงเวลานั้นๆมาตัดต่อให้ออกมาแนวขำขัน เสียดสีสังคมที่เป็นอยู่ จนอาจสะดุดใจหรืออาจสะดุดอารมณ์คนบางกลุ่ม แต่ขอชี้แจงก่อนนะครับว่าผลงานทุกชิ้นมันเป็นจินตนาการ เป็นสิ่งสมมุติ บนพื้นฐานจากข่าวที่เป็นประเด็น แอดมินไม่ได้สร้างเรื่อง ยัดเยียดข่าวลวงให้คนเชื่อ เหมือนกับพวกแกนนำสารพัดสีที่กุข่าวหลอกลวงผู้ชุมนุมเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้ามไม่เว้นแต่ละวัน แล้วเพจผมก็ไม่ใช่เครื่องมือของคนกลุ่มใด แต่ทำขึ้นเพื่อเอาความซีเรียสของข่าวบางข่าวมาลดทอนให้เบาลงหรือหนักกว่าเก่าก็ไม่รู้

แรงบันดาลใจของผมคงเริ่มจากพวกการ์ตูนแนวล้อเลียน ภาพยนตร์เสียดสี ที่ทำออกมาขำขันและแฝงแง่คิดลงไปก่อนจะทำเพจขึ้นมา ผมก็ตัดต่อรูปโพสต์ลงตามเพจต่างๆเล่นนะครับ ไม่ได้จริงจังอะไร จนช่วงวิกฤติน้ำท่วม ผมก็ติดเกาะไปไหนไม่ได้อยู่แต่ในบ้าน ไม่อยากเครียดเลยเอารูปมาตัดต่อกันเยอะๆแล้วก็สร้างเพจตัดต่อขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางระบายความเครียดของผมและแฟนเพจที่ติดตาม ผลที่ตามมาคือก็ได้รับความนิยมระดับหนึ่งครับ

หลังจากนั้นชีวิตผมก็เริ่มมีคนติดตามผลงานเราเยอะขึ้น หลายคนเข้าใจคอนเซ็ปและความคิดที่เราจะสื่อ แต่บางคนแค่ผ่านมาเห็นรูปก็ไม่พอใจ ว่าทำไมไปเอารูปคนอื่นมาล้อเลียน ก็มีทั้งชม ทั้งด่า ในทุกรูปที่ผมโพสต์แหละครับ(หัวเราะ)

ภาพล้อเลียนนักการเมืองกับ โปสเตอร์ภาพยนตร์ Twilight

แอดมินเพจเป็นทีมหรือว่าทำคนเดียว และแอดมินแต่ละคนเป็นใคร

ผมทำเพจขึ้นคนเดียวครับ ตอนนี้ก็ทำงานเป็นกราฟฟิคบริษัททำโฆษณา ในบางวันถ้างานไม่ยุ่งก็จะตัดต่อรูปได้เยอะ แต่ถ้าวันไหนงานแยะก็จะตัดต่อรูปได้น้อยครับ (หัวเราะ) ก็คิดเองตัดต่อเอง แต่บางทีก็รีเมคผลงานจากเพจเพื่อนบ้านมาบ้าง แล้วก็ให้เครดิตเค้าไป

คิดว่าคนมาไลค์หรือติดตามเพจคุณเพราะอะไร รวมทั้งคนกดโหวตเพจคุณเพราะอะไร

ผมคิดว่าที่คนไลค์เพจผม เพราะเค้าอาจชอบผลงานแนวเสียดสี ที่ทำออกมาค่อนข้างเนียน เพราะทุกรูปผมตั้งใจทำให้ออกมาให้เนี้ยบที่สุดและเอาฮามากที่สุดด้วยเช่นกัน และเพจผมก็รักษาจุดยืนนี้มาตลอด มีทั้งเสียดสีการเมือง ล้อหนัง ล้อละคร คำคมหนัง แต่ทุกรูปผมก็พยายามแฝงอะไรให้คนได้คิดบ้าง แม้บางรูปอาจจะดูแรงและเสี่ยงดราม่าเอามากๆ

ส่วนเรื่องการโหวต บอกตามตรงผมเพิ่งไม่รู้เลย จนมีแฟนเพจคนหนึ่งมาบอกผม ผมเข้าไปดูก็ตกใจนะ ทำไมเพจผมถึงติด 1 ใน 10 เลย ผมก็เลยขอแจม เรียกเสียงคะแนนจากลูกเพจบ้าง ตัดต่อภาพหาเสียงบ้าง จนแซงเพจท่านออกพญามาได้ แต่ก็ภาวนาอย่าแซงเพจโหดสัสเลย เดี๋ยวจะเพจจะโดนปาขี้เอา (หัวเราะ) คิดแล้วก็ดีใจครับ ที่มีคนโหวตให้เพจผมเยอะขนาดนี้

อยากจะบอกอะไรกับคนเหล่านั้นบ้าง

"กราบขอบพระคุณที่ติดตามและให้ความไว้วางใจในเพจผม ขอบพระคุณครับ"

ถ้าจะให้นิยามเพจคุณ เราควรเรียกหรือทำความเข้าใจว่าเพจคุณคืออะไร

นิยามเพจผมคงประมาณ "เพจเอาฮาธิปไตย" ครับ

ตอนนี้มีดราม่าระหว่างแฟนเพจในเฟซบุ๊ก เรื่อง "ก๊อบปี้" หรือละเมิดลิขสิทธิ์ คุณมองเรื่องนี้ว่าอย่างไร

ขอแบ่งเป็น 2 พวกนะครับ พวกแรกคือพวกที่ก๊อบรูปไปโดยไม่กดแชร์ อันนี้ผมเฉยๆ นะครับ เพราะบางรูปไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีชื่อเจ้าของผลงาน หรือใครเป็นคนแรกที่ลง ทุกเพจก็จะก๊อบๆ กันมา รูปไหนที่ฮามาก แรงมาก ก็จะถูกเวียนเทียนไปเกือบทุกเพจ

พวกที่ 2 คือพวกที่เอารูปจากเพจที่เค้ามีเครดิตใต้รูปไปก๊อบแล้วตัดเครดิตเจ้าของรูปนั้นออก หรือบางทีทำน่าเกลียดถึงขนาดแปะเครดิตเพจตัวเองทับลงไป แสร้งว่าเป็นผลงานของตัวเอง พวกนี้ทุเรศมากครับ ไร้ฝีมือ ไร้ความคิด ไร้การสร้างสรรค์ อย่างสิ้นเชิง

จริงๆ เรื่องลิขสิทธิ์รูปในเฟซบุ๊กมันดูไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่บางทีมันก็สะเทือนใจเจ้าของผลงานครับ รูปในเพจผมโดนหลายรูปเลย แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้มากครับ เคยตัดต่อเสียดสีพวกก๊อบไปครั้งหนึ่ง ก็มีการตอบรับประมาณว่า "เฟซบุ๊กคือการแชร์ในโลกออนไลน์ ถ้าไม่อยากให้ก๊อบก็อย่าเอารูปมาลง"

สรุปคือ การก๊อบปี้ ในเฟซบุ๊ก กลายเป็นเรื่องปกติ คงว่าอะไรมากไม่ได้หรอกครับ เพราะรูปที่ผมเอามาตัดต่อ อย่างเช่น โปสเตอร์หนัง ก็เป็นรูปที่เขามีเจ้าของมีลิขสิทธิ์เช่นกัน เพียงแต่ผมเอามาดัดแปลงตัดต่อเท่านั้นเอง

ภาพล้อเลียนเน วัดดาว - แอล โอรส กับโปสเตอร์ภาพยนตร์อันธพาล 

มองการระดมรีพอร์ตใน เฟซบุ๊ก ว่าอย่างไร

ช่วงนี้มีการระดมรีพอร์ตเยอะมากครับเพจผมก็โดนทุกวัน ทั้งที่บางภาพไม่ได้ส่อไปทางลามก อนาจาร หรือรูปหมิ่นศาสนา หมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใด และทุกเพจก็โดนเหมือนกัน ผมว่ามีคน 2 จำพวกครับ พวกเเรกอาจจะเป็นแอดมินเพจนึงที่หมั่นใส้อีกเพจนึง ก็เลยกดรีพอร์ตรูป ส่วนอีกพวกคือไม่ชอบเพจนี้แต่ต้น ด้วยเนื้อหาของเพจอาจไปสะกิดติ่งอะไรของเขาไว้

ของผมที่งี่เง่าที่สุดคือ มีหญิงทำงานราชการรีพอร์ตรูป "โกสต์ไรเดอร์" ผมก็เลยถามกลับ "ไม่ทราบว่ารูปนี้มันไปทำให้คุณไม่สบายใจตรงไหน" เค้าก็ตอบมาว่า "ไม่รู้ ถ้าไม่อยากลบ ก็ไม่ต้องลบ" อ้าว อีนี่...เห็นไหมครับ ขนาดคนที่มีการศึกษา มีวุฒิ ทำงานราชการ ยังปัญญาอ่อนได้โล่จริงๆ

ในฐานะที่เป็นแอดมิน เคยแบนคนที่เข้ามาในเพจบ้างไหม เพราะเหตุใด

ก็แบนครับ กับคนที่ใช้คำพูดด่า รุนแรง เล่นบุพการี ใช้เหตุผลคุยกันแล้วก็ไม่ฟัง

แอดมินบางเพจมีการเอาข้อมูลส่วนตัวของบุคคลธรรมดามาเผยแพร่ให้สาธารณะรู้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือหรือเศรษฐกิจบางอย่าง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวก่อนนั้น คุณมองพฤติกรรมแบบนี้ว่าอย่างไร

ของมองแบบ 2 แง่มุมนะครับ บางเพจตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองโดยเฉพาะ ใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กโจมตีฝ่ายตรงข้าม แบบเอาเป็นเอาตาย แล้วการเอาข้อมูลฝ่ายตรงข้ามมาแฉก็ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเท่าไร เพราะข้อมูลบางอย่างก็จริงบางเท็จบาง ส่วนอีกแง่บางเพจก็เอาประเด็นกระแสสังคม มาเสียดสี และข่าวที่ได้มานั้นก็มักจะเอามาจากสื่อกระแสหลัก ซึ่งก็จริงบ้างเท็จบ้างเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาโจมตีอย่างรุนแรง หากแต่ทำขึ้นเพื่อตามกระแสสื่อเท่านั้น

มองว่าปี 2013 นี้ แนวโน้วของเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะ facebook จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับสิ่งที่เป็นอยู่

เฟซบุ๊กอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่าง รวมทั้งเพจที่มีเยอะขึ้นทุกวัน บางเพจตั้งขึ้นเพื่อการธุรกิจ บางเพจตั้งขึ้นตามกระแส วลี คำฮิตในช่วงนั้นๆ แต่จะเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ พี่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กนั่นแหละครับ (หัวเราะ)

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...