เมียวีรชน14ตุลา เตือนสติ "อ้าย"โหยหาปฏิวัติ

ภรรยาวีรชน 14 ตุลา "จีระ บุญมาก" ออกโรงฉะ"เสธ.อ้าย"ปลุกม็อบยุทหารปฏิวัติชี้เหมือนถูกย่ำยี เอาเท้าเหยียบหน้า ทำชาติถอยหลัง กว่าจะได้ประชาธิปไตยมา ประชาชนต้องเสียชีวิตมาแล้วมากมาย ลั่นถ้ามีปฏิวัติอีกจะออกไปต่อสู้ เตรียมตั้งโต๊ะล่าชื่อคัดค้านรัฐประหาร ด้านเตรียมทหารรุ่น 5 ก็แถลงจวกทำแตกแยก ล้มล้างรัฐธรรมนูญ จี้ลาออกจากประธานศิษย์เก่า ขณะที่นปช.สั่งเสื้อแดงเตรียมพร้อมสูงสุด รับมือขบวนการโค่นล้มประชาธิปไตย "ตู่"แฉฝ่ายตรงข้ามหวังปิดฉากรัฐบาลก่อน 4 ธ.ค. จี้รัฐบาลเร่งลงนามเขตอำนาจศาลโลก และแก้รัฐธรรมนูญ อย่าเอาแต่ถอย หรือจะรอให้ถูกฆ่าอีกครั้งถึงจะทำ ส่วนดีเอสไอชี้เหลือแค่สอบ"รมต."ยุคมาร์ค กับทหารคุมกำลัง ก็จะตั้งคดีฆาตกรรม



สอบเจ้าของบ้าน-คลี่บึ้มทหาร

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ 99 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกเจ้าของบ้านโบราณ ตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ มาให้ข้อมูลจุดที่พบกระเดื่องระเบิด เพื่อจะได้นำมาตรวจหาพิกัด และนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ปาระเบิดใส่ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสธ.พล.ร.2รอ. เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 

พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าวว่า สำหรับการสอบปาก คำพยานคดี 99 ศพ ในขณะนี้เหลือเพียง 2 กลุ่มใหญ่ คือครม.สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกลุ่มนายทหารที่ควบคุมกำลังพล เมื่อสอบ สวนทั้ง 2 กลุ่มนี้ครบหมดแล้ว จะทำให้สำนวนคดีมีความสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นจะนำสำนวนเข้าที่ประชุมใหญ่คณะพนักงานสอบ สวน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย อัยการ ตำรวจ และดีเอสไอ เพื่อลงมติว่าจะออกหมายเรียกบุคคลใดบ้างมารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฆาตกรรม



นัด12พ.ย.รมต.ยุคมาร์คให้การ

หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี 99 ศพ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีนายพัน คำกอง คนขับแท็กซี่ ที่ศาลมีคำสั่งว่าเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ได้รับสำนวนคดีทั้งหมดจากศาลแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเรียกใครมาแจ้งข้อกล่าวหาคดีฆาตกรรมได้ เพราะต้องรอสอบปากคำกลุ่มนายทหารที่คุมกำลังพลในวันเกิดเหตุก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าจุดที่นายพันถูกยิงเสียชีวิตนั้น เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยไหน เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วก็จะออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาทันที 

รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า สำหรับอดีตรัฐมนตรีชุดแรกที่ออกหมายเรียกไปแล้ว ประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์, นายชุมพล ศิลปอาชา, นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ, และ นายสาธิต ปิตุเตชะ เพื่อต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมมอบนโยบาย การแก้ไขเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อปี 2553 และการออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีความร้ายแรงในขณะนั้น ว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดถึงต้องออกประกาศ โดยนัดให้มาพบตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. เป็นต้นไป 



ให้ความรู้นักโทษการเมือง

ที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ภายในโรงเรียนพลตำรวจนครบาล บางเขน นางสุดา รังกุพันธ์ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย นายนิธิวรรธ วรรณศิริ ผู้ริเริ่มโครงการครูอาสานักโทษการเมือง และสมาชิกเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง เข้าเยี่ยมกลุ่มนักโทษการเมือง 23 ราย ที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว โดยนายนิธิวรรธกล่าวว่า โครงการครูอาสานักโทษการเมือง เป็นโครงการให้ความรู้แก่นักโทษ เพราะบางรายความรู้น้อย และไม่มีโอกาสศึกษาต่อ จะสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ไปจนถึงมัธยมศึกษา และยังเป็นการให้กำลังใจนักโทษกลุ่มนี้ ที่ยังไม่ได้รับการประกัน รวมทั้งช่วยผ่อนคลายความเครียด และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ 


ต้าน"อ้าย" - พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร แกนนำตท.5 พร้อมคณาจารย์และศิษย์เก่าตท.รุ่น 5,7,8,11 แถลงจุดยืนต่อต้านม็อบกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ โดยขอให้อย่าเป็นเครื่องมือของใคร ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.





แดงพร้อมสูงสุด-สู้อำมาตย์

ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงประจำสัปดาห์ โดยนางธิดา โตจิราการ ประธานนปช.กล่าวว่า สื่อมวลชนถามบ่อยว่าคนเสื้อแดงแตกแยกกันแล้วหรือไม่ ขอตอบว่าไม่จริง เพราะในทางหลักการคนเสื้อแดงต้องการเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตรงนี้เป็นจุดร่วมของคนเสื้อแดงที่ไม่มีทางแตกกันได้ ขณะนี้มีบททดสอบเกี่ยวกับความสามัคคีของคนเสื้อแดงมากมาย ส่วนตนจะถูกดิสเครดิตก็ไม่เป็นไร การต่อสู้ไม่ใช่เพื่อประธานนปช. หรือแกนนำเท่านั้น แต่ต่อสู้เพื่อประชาชนไทยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรประมาทม็อบสนามม้านางเลิ้ง เพราะนี่อาจเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของระบอบอำมาตย์ เขาจำเป็นต้องระดมสรรพกำลังมาทั้งหมด ขอให้คนเสื้อแดงเข้มแข็ง หอกทุกหอกต้องทิ่มแทงไปที่ฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาชน 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้คนเสื้อแดงต้องเตรียมพร้อมอย่างสูงสุด เพราะขบวนการโค่นล้มประชาธิปไตยนั้น ทำกันอย่างเป็นระบบ มีการเคลื่อนกำลังเหมือนกองทัพมด ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการชุมนุม คนโง่ที่สุดในประเทศนี้ก็รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน เพื่อโค่นล้มรัฐบาลให้เร็วที่สุด



"ตู่"แฉมุ่งล้มรัฐบาลก่อน4ธ.ค.

"จะประมาทเหตุการณ์วันที่ 24 พ.ย. นี้ไม่ได้ เขาต้องการปิดฉากให้เสร็จก่อนวันที่ 4 ธ.ค. เราชนะการเลือกตั้งมา แต่เราก็พ่ายแพ้กับขบวนการโค่นล้มทุกครั้งเช่นเดียวกัน ถูกฆ่ามา 2 รอบ ถูกล้มมา 3 ครั้งติดต่อกัน เพราะฉะนั้นการจัดกิจกรรมเวทีคู่ขนานของคนเสื้อแดงจะไม่มีลักษณะเผชิญหน้า" นายจตุพรกล่าว

แกนนำนปช.กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีตาอิน ตานา กับตาอยู่ แต่อย่าลืมว่าตาอินกับตาอยู่เป็นพวกเดียวกัน เหลือแต่ตานาคือคนเสื้อแดงเท่านั้น แม้จะไม่มีการเผชิญหน้า แต่ถ้ามีขบวนการจัดการเอาคนไปใส่เสื้อแดงเพื่อสร้างสถานการณ์ ก็ย่อมเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชายชุดดำ จับคนเผารถเมล์ ก็เป็นการจัดฉากมาแล้วทั้งสิ้น ได้แจ้งไปยังรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยว่าต่างฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ใช่ภาระของคนเสื้อแดงแต่ตามลำพัง โดยรัฐบาลมีหน้าที่ทำตามกฎหมายก็ทำไป พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่สื่อสารกับสมาชิกก็ทำไป คนเสื้อแดงก็ต้องเตรียมพร้อม ดังนั้น 3 ส่วนนี้ต้องเคลื่อนอย่างเป็นระบบ และไม่อยากเห็นใครตายอีก 



จี้อย่าถอย-จะรอให้ถูกฆ่าอีกหรือ

นายจตุพรกล่าวถึงการลงนามยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) กรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 ว่าอยากถามใจนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ผลที่ส่งไปให้คณะอนุกรรมการแปลธรรมนูญกรุงโรม เพื่อศึกษากันต่อ ทั้งที่กรรมการชุดนี้แต่งตั้งกันมา 13 ปีแล้ว แม้จะอธิบายดูดี แต่ผลของคำตอบคือไม่ยอมรับเขตอำนาจศาล ดังนั้น ถ้ากลัวว่าจะเข้าข่ายมาตรา 190 ก็ต้องกล้าเสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภา ตามมาตรา 190 และขอถามไปยังนายสุรพงษ์ ในฐานะที่รักกัน ถ้ามีการฆ่ากันอีกรอบ ถ้ามีการรัฐประหารอีกรอบ ตอบมาหน่อยว่าจะรับผิดชอบต่อชะตากรรมนี้อย่างไร 

"ผมรักรัฐบาลนี้ แต่ผมไม่มีหน้าที่มาอวยรัฐบาลนี้ คนเสื้อแดงต้องการความสุข เป็นความสุขจากประชาธิปไตย เรามีโอกาสทำ แต่เราไม่ทำ ต้องรอให้เขามาฆ่าอีกครั้ง รอให้เขามาโค่นรัฐบาลก่อนใช่ไหมถึงจะทำ แต่ถึงวันนั้นคุณก็ไม่มีสิทธิที่จ ะทำแล้ว พูดมาให้ชัดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ 6 ปีที่ผ่านมา ทั้งเจ็บตาย ถูกขัง ควรจะชโลมใจกันบ้าง ทีถอยให้ม็อบกำนันถอยได้ สร้างความภูมิใจให้คนเสื้อแดงบ้างไม่ได้หรือ คนเสื้อแดงไม่ได้มีหน้าที่มาตายให้กับรัฐบาลที่ไม่ได้สนองอะไรให้กับเขาเลย แก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เพื่อคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่เพื่อประชาธิปไตยของคนทั้งประเทศ" นายจตุพรกล่าว



ตท.5ฉะเสธ.อ้ายปลุกปฏิวัติ

วันเดียวกัน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พล.อ.ธนู ศรียากูล ประธานศิษย์เก่าเตรียมทหารรุ่น 5 พร้อมด้วยอดีตนายทหารศิษย์เก่าตท.5 ตท.7 ตท.8 ตท.10 และตท.11 กว่า 30 คน อาทิ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. พล.อ.อดิศักดิ์ รัตนรามา พล.อ.อภิชาติ ทิมสุวรรณ พล.ท.มนัส เปาริก และ พล.อ.วีระพันธ์ ปัทมานนท์ ร่วมแถลงคัดค้าน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม และเครือข่ายชุมนุมต่อต้านรัฐบาล 

โดยพล.อ.ธนู อ่านแถลงการณ์ว่า การที่ พล.อ.บุญเลิศออกมาปลุกระดมสร้างความแตกแยกในสังคม เรียกร้องให้ทหารยึดอำนาจล้มล้างรัฐธรรมนูญ ปิดประเทศแช่แข็งระบอบประชาธิปไตยนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พวกเราศิษย์เก่าเตรียมทหารจะไม่ยอมให้คนที่มีความคิด ที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยเป็นผู้นำของพวกเราโดยเด็ดขาด พวกเราสมควรออกมาแสดงพลังโดยพร้อมเพรียงกัน เรียกร้องให้พล.อ.บุญเลิศลาออกจากประธานศิษย์เก่านักเรียนเตรียมทหาร เพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติภูมิของสถาบัน มิให้เสื่อมเสียจากพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของเสธ.อ้าย



"น้องตุ้ย"เตือนอย่าหลงผิด

"ถึงแม้พวกเราจะมาเพียงส่วนน้อย เพราะเวลาจำกัด และคิดว่าไม่จำเป็นต้องระดมพลให้มีจำนวนมาก เพื่อแข่งขันเปรียบเทียบ สิ่งสำคัญคือการแสดงจุดยืนที่ถูกต้อง พวกเราเชื่อว่ายังมีพี่น้องเตรียมทหารอีกจำนวนมาก ที่เป็นพลังเงียบและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเสธ.อ้าย จึงขอให้พี่น้องเตรียมทหารทุกคน ตลอดถึงครูบาอาจารย์และพ่อแม่พี่น้องเชื่อมั่นในเกียรติยศศักดิ์ศรี และคุณงามความดีของสถาบันที่หล่อหลอมพวกเรามา" ประธานศิษย์เก่าตท.5 กล่าว 

ส่วนพล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ขอเตือนสติ พล.อ.บุญเลิศ ที่เป็นรุ่นพี่ว่าอย่าหลงผิด เพราะจะสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ บทเรียนก็มีอยู่แล้ว อย่าไปหลงคารม หรือตกเป็นเครื่องมือของใคร อยากให้ยุติบทบาท เพราะตัวเสธ.อ้ายก็ไม่ได้มีมวลชนมาก อาศัยพวกอื่นมาสมทบ หากบ้านเมืองวุ่นวายเกิดกลียุค ก็รับผิดชอบไม่ไหว ขณะนี้บ้านเมืองสงบสุขดีแล้ว ปล่อยไปตามครรลองของประชาธิปไตย จะดีชั่วก็คิดถึงรัฐสภาเป็นหลัก เพราะประเทศที่เจริญแล้วเขาใช้รัฐสภาทั้งนั้น ไม่ใช้ม็อบข้างถนนแบบนี้



เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลัง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาแถลงอย่างนี้ จะทำให้ความเป็นพี่น้องเตรียมทหารจะขาดหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ถึงเวลาจะขาดก็ต้องขาด ถ้าอยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่สงบสุขก็ทำไป สิ่งที่พูดวันนี้ไม่ได้เป็นคำขู่แต่เป็นคำขอร้อง ในฐานะพี่น้องกันต้องพูดกันให้รู้เรื่อง น้องเตือนพี่ พี่ไม่ชอบใจก็ไม่เป็นไร เตือนแล้ว หากจะชุมนุมอย่างสงบอยู่ในกรอบกฎหมายก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าพูดถึงพลังมวลชนแล้ว ตนมีเยอะกว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเสธ.อ้าย เพราะลำพังเสธ.อ้ายไม่มีอะไร เติบโตมาจากสนามม้าเท่านั้นเอง



เมียวีรชน14ตุลาออกโรง

ขณะเดียวกัน ที่ห้องประชุมจีระ บุญมาก อาคารสยามบรมราชกุมารี สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ หรือนิด้า นางละเมียด บุญมาก อายุ 68 ปี นายกกลุ่มญาติวีรชน 14 ตุลา และเป็นภรรยาของนายจีระ บุญมาก นักศึกษาปริญญาโทนิด้า ที่ถูกทหารยิงเสียชีวิตหน้ากรมประชาสัมพันธ์ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ร่วมกล่าวถึงกรณีพล.อ. บุญเลิศ หรือเสธ.อ้ายว่า อยากถามว่าต้องการอะไร ได้รับสินจ้างรางวัลมาจากใครหรือไม่ ที่มาล้มรัฐบาลด้วยการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ เสธ.อ้ายไม่นึกถึงประชาธิปไตยเลยหรือ ว่ากว่าจะได้มาประชาชนต้องสูญเสียมาแล้วกี่สมัย ทั้งเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 เหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 และเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549 แล้วเสธ.อ้ายออกมาพูดพล่อยๆ เช่นนี้ถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย ลองให้เมียหรือลูกเสธ.อ้ายเสียชีวิตจากการเรียกร้องประชาธิปไตย จะกล้าออกมาพูดเช่นนี้หรือไม่

นางละเมียดกล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้าย แตกต่างจากการชุมนุมในเหตุการณ์ 14 ต.ค. มาก เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้าย มาจากการจัดตั้ง และมีผลประโยชน์แอบแฝงจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แต่เหตุการณ์ 14 ต.ค. ที่มีผู้ร่วมชุมนุมโดยไม่ได้นัดหมายเป็นแสนๆ คน คนที่ออกมาชุมนุมไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เสธ.อ้ายอ้างว่าชุมนุมตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย แต่ทำไมพูดถึงการให้บุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกมาปฏิวัติ ต้องอย่าพูด 



ลั่นถ้าปฏิวัติอีกจะออกไปสู้

"คำว่าปฏิวัติเขาไม่พูดกันเเล้ว สมัย พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ ที่ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2519 ยังพูดคำว่าปฏิรูปเลย เขาไม่พูดคำว่าปฏิวัติกันแล้ว ออกมาพูดครั้งนี้ในฐานะผู้สูญเสีย ที่รู้สึกเจ็บปวดมาก ที่เห็นการเรียกร้องการปฏิวัติ เหมือนถูกย่ำยี และถูกเอาเท้าเหยียบหน้าเลย เพราะเราต้องสูญเสียคนที่รักจากการเรียกร้องประชาธิปไตย แต่นี่ผ่านมา 39 ปีเเล้ว ยังมีคนพูดถึงเรื่องปฏิวัติ เหมือนมีคนมาพูดจี้จุด เราเลยยอมไม่ได้ และถ้ามีปฏิวัติขึ้นอีกครั้ง จะออกไปต่อสู้เหมือนสามีอย่างแน่นอน" ภรรยาวีรชน 14 ตุลาฯ กล่าว

ภรรยาวีรชนกล่าวต่อว่า เราผ่านเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 มาแล้ว 39 ปี เเต่ก็ยังมีกลุ่มคนออกมาเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติอีก อยากถามว่าพวกที่มาเรียกร้องอยู่หลังเขาหรืออย่างไร พวกคุณไม่น่าเกิดมาในรุ่นที่เป็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเเล้วเลย ทำไมชอบทำตัวด้อยพัฒนา ต้องการให้ประเทศถอยหลังลงคลอง ทั้งที่ประเทศก้าวหน้าไปตั้งไกลแล้ว อีกทั้งสภาพสังคมในขณะนี้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพเพิ่มมากขึ้น แตกต่างจากสภาพสังคมก่อนเหตุการณ์ 14 ต.ค. เป็นอย่างมาก เนื่องจากสมัยนั้นเต็มไปด้วยการกดขี่จากผู้ปกครองที่เป็นเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ นักศึกษาออกมาแสดงความคิดเห็นก็ถูกจับ และจำกัดสิทธิหมด 



ตั้งโต๊ะล่าชื่อค้านรัฐประหาร

"เราสูญเสียจากการเรียกร้องประชาธิปไตยมามากพอแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้เสธ.อ้ายหยุดการเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันการสูญเสีย โดยในเร็วๆ นี้กลุ่มญาติวีรชน 14 ตุลา จะตั้งเต็นท์ที่หน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ล่ารายชื่อคัดค้านการปฏิวัติ ของเสธ.อ้าย เพราะเชื่อว่าเสธ.อ้ายออกมาเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์และพวกพ้องของตัวเอง ข้อกล่าวอ้างที่ว่ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น ก็ต้องไปตัดสินกันที่รัฐสภา ไม่ใช่เล่นกันนอกสภา และเรียกร้องการปฏิวัติเช่นนี้ อีกทั้งหากมีการปะทะกันของกลุ่มมวลชนทั้ง 2 ฝ่าย เสธ.อ้ายจะกล้ารับผิดชอบหรือไม่" นางละเมียดกล่าว

10 พ.ย. 55 เวลา 13:03 2,681 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...