เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาตุ๋นเหยื่อซื้อทัวร์เกาหลี-ญี่ปุ่น ราคาถูก เดินทางเข้ามอบตัว หลังมีผู้เสียหายกว่า 70 ราย เข้าแจ้งความ โดย 2 ผู้ต้องหาอ้างถูกเอเย่นต์เบี้ยวไม่ส่งตัวให้ตามกำหนด ไม่ได้มีเจตนาหลอกแต่อย่างใด 

          วานนี้ (28 ตุลาคม) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเชาว์ โล่เพชรรัตน์ อายุ 27 ปีและนางสาวชัญญา ยุพลัคฆ์ อายุ 28 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาร่วมกันโฆษณาอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังทั้งคู่ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

          ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายประมาณ 70 คน ได้เข้าแจ้งความว่า ถูกบริษัทโกลบอล เอเชีย ทราเวลลิ่ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 678 ถนนตากสิน ซอย 5 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. ซึ่งเป็นของสองสามีภรรยาดังกล่าว หลอกลวงว่าสามารถจัดทัวร์ไปเที่ยวเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยขายตั๋วเครื่องบินให้ในราคาถูกกว่าบริษัททัวร์ทั่วไป อีกทั้งยังมีที่พักและอาหารพร้อม แต่ทั้งนี้ต้องโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของผู้ต้องหาก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน โดยมีกำหนดการเดินทางในวันที่ 22-26 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

          หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ทางบริษัททัวร์ก็ได้โทรศัพท์มาขอเลื่อนการเดินทางไปเป็นเดือนหน้า โดยอ้างว่ามีปัญหากับตัวแทนสายการบิน แต่ผู้เสียหายรายหลายค้นหาข้อมูลและทราบว่า บริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมฉ้อโกงในลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว จึงรวมตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว 

          อย่างไรก็ดี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนผู้ต้องหานั้น ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ โดยระบุว่า ไม่ได้มีเจตนาโกงเงินแต่อย่างใด แต่ที่ทำไปนั้นเนื่องจากถูกบริษัทแห่งหนึ่งในตัวเมืองพัทยา โกงเงินค่าตั๋วของตนไปอีกทอดหนึ่ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 1 ปี ตนก็สั่งซื้อตั๋วเครื่องบินจากบริษัทดังกล่าว แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งครั้งนี้ทางบริษัทนั้นไม่สามารถออกตั๋วให้ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ และตนก็ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ที่ สน.พัทยา แล้ว นอกจากนี้ ตนก็พยายามจะคืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่ก็คืนไม่ทัน จึงเกิดปัญหาตามมา 

          ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามูลค่าความเสียหายนั้น ราว 20 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งขยายผล เพื่อติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก