เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า เมื่อคืนวันพระขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ที่ผ่านมา ตรงกับ คืนวันที่ 23 ก.ย. มีชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่บ้านท่าไคร้ ม.5 ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ มองเห็นบั้งไฟพญานาคผุดขึ้นจากแม่น้ำโขง ก่อนถึงวันออกพรรษาจึงไปตรวจสอบ นายวุฒิไกร เยาวขันธ์ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 5 ม.5 บ้านด่านใต้ ต.เหล่าอ้อย อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ช่างก่อสร้างพระอุโบสถและเมรุหลังใหม่ของวัดโพธาราม หรือวัดหลวงพ่อพระใหญ่ บ้านท่าไคร้ กล่าวว่าพบเห็นลูกไฟสีแดงอมชมพูพุ่งขึ้นมาจากแม่น้ำโขงกว่า 30 ลูก

 นายวุฒิไกรกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 23 ก.ย. หันหน้าออกไปทางน้ำโขงตรงจุดที่กำลังก่อสร้างเมรุปลอดควันพิษ ได้มองเห็นลูกไฟพุ่งขึ้นจากน้ำโขงเป็นชุดๆ จึงได้เรียกเพื่อนที่กำลังนั่งดูทีวีประมาณ 10 คนออกมาดูด้วยกัน เพราะไม่เคยเห็นและรู้จักบั้งไฟพญานาคมาก่อน เมื่อเพื่อนยืนยันเป็นบั้งไฟพญานาคทุกคนจึงวิ่งกรูไปยังริมโขง เห็นเต็มตาอีก 2 ชุดต่อมา เพราะแต่ละชุดจะขึ้นห่างกันประมาณ 7 นาที ทุกคนถึงกับขนลุกซู่ ทั้งดีใจทั้งตื่นเต้น เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

 ด้านนายณรงค์ ผ่านสำแดง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 6 บ้านไคสี ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ ช่างปูนกล่าวว่า เมื่อเพื่อนเรียกให้ดูลูกไฟ พอเห็นก็ฟันธงไปเลยว่านี่คือบั้งไฟพญานาคของจริง เพราะบ้านตนอยู่ริมโขงใกล้วัดอาฮงศิลาวาสที่เป็นส่วนที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง หรือที่เรียกขานกันว่าสะดือแม่น้ำโขง เคยพบเห็นเป็นประจำ และวันนี้ก็เห็นขึ้นมาประมาณกว่า 30 ลูกใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจากเวลา 19.30 น.-19.45 น.

 ขณะที่คนเฒ่าคนแก่ท่านหนึ่งบอกว่า ปีนี้เป็นปี 8 สองหน การออกพรรษาระหว่างไทยและลาวจะไม่ตรงกัน โดยไทยจะออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ตรงกับวันที่ 30 ต.ค.ส่วนคนลาวจะออกพรรษาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันที่ 31 ต.ค. ปีนี้จึงได้ดูบั้งไฟพญานาคในลำน้ำโขงเต็มที่ถึง 2 วัน