สื่อดังแคนาดาเผย "2 แหม่ม" ดับสยองเกาะพีพี-ที่แท้เสพ "4 คูณ 100" เกินขนาด

ความคืบหน้าคดี 2 พี่น้องนักท่องเที่ยวสาวชาวแคนาดา น.ส.โนเอมี เบลังเกอร์ อายุ 26 ปี และน.ส.ออเดรย์ เบลังเกอร์ อายุ 20 ปี เสียชีวิตปริศนาในห้องพักโรงแรมบนเกาะพีพี จ.กระบี่ โดยแม่บ้านไปพบศพเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีดังกล่าวกลับมาได้รับความสนใจจากสื่อต่างชาติอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวซีบีซีนิวส์ ในแคนาดา รายงานผลการชันสูตรศพของ 2 พี่น้องโดยโรงพยาบาลหนึ่งของไทย

 ซีบีซีนิวส์ สื่อดังแคนาดา รายงานว่า ผลชันสูตรดังกล่าวไม่ได้เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนไทย แต่มีรายงานไปยังสำนักข่าวซีบีซี ว่าผลชันสูตรพบสารไดเอตธิลโทลูเอไมด์ หรือดีอีอีที (DEET-Diethyltoluamide) สารพิษอันตรายใช้ในผลิตภัณฑ์กันแมลงอยู่ในร่างกายของผู้ตาย ทำให้เชื่อได้ว่าสองพี่น้องชาวแคนาดาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสารดีอีอีทีผสมลงไปด้วยก่อนเสียชีวิต โดยสารดีอีอีทีเป็นหนึ่งในวัตถุดิบของเครื่องดื่มกระตุ้นอารมณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นในไทยนิยม เป็นการผสมระหว่างยาแก้ไอ เครื่องดื่มน้ำอัดลม สารดีอีอีที และใบกระท่อม หรือที่เรียกกันในกลุ่มวัยรุ่นว่า "สี่คูณร้อย" ซึ่งสารดีอีอีทีคาดว่าน่าจะมาจากยาจุดกันยุง ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญทำให้เกิดอาการมึนเมา

 ยาเสพติดดังกล่าวปกติจะผสมในอัตราส่วนเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ผู้ดื่มเกิดอาการเคลิบเคลิ้มแต่จากกรณีดังกล่าวสันนิษฐานได้ว่าอาจผิดพลาดผสมดีอีอีทีลงไปในปริมาณมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิต

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ2 พี่น้องชาวแคนาดาเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยก่อนพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี กระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานโรงแรมเห็นว่า 2 สาวหายหน้าหายตาไปหลายวันจึงใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไปดูภายในพบศพน.ส.โนเอมี และน.ส.ออเดรย์ สภาพมีเลือดออกตามผิวหนัง ไรฟัน เล็บมือ เล็บเท้ามีสีเขียวคล้ำ ลักษณะคล้ายแพ้สารพิษบางอย่าง นอกจากนี้ยังพบกองอาเจียนจำนวนมากภายในห้องด้วย แต่ไม่มีร่องรอยการฆาตกรรมแต่อย่างใด

 แหล่งข่าวจากตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ระบุว่า คดีที่เกิดขึ้นตำรวจในพื้นที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาห้ามให้ความเห็นในทุกกรณี โดยระบุว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนผลชันสูตรศพ 2 แหม่มสาวตำรวจเพิ่งได้รับข้อมูลเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ เพราะเรื่องไม่ได้อยู่ที่จังหวัดกระบี่แล้ว อยู่ที่สถานทูตและโรงพยาบาลทั้งหมด

 ด้านนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่กล่าวว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่เป็นอย่างยิ่ง การที่จะเปิดข้อมูลและการออกมาชี้แจงของหน่วยงานภาครัฐช้ามาก และที่สำคัญไม่มีการเปิดเผยข้อมูล หลายครั้งกรณีลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดกระบี่ แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปหาต้นตอหาสาเหตุได้ ไม่มีหน่วยงานใดที่จะรับผิดชอบที่จะทำงานต่อ จบกันแล้วก็จบกันไป

 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะพีพีครั้งแล้วครั้งเล่า ยังหาสาเหตุการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวที่ชัดเจนทั้ง 2 ครั้งไม่ได้เลย บางทีไปทราบในต่างประเทศ แต่ในเมืองไทยไม่มีข้อมูล ผมไม่อยากให้แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่เสียหายด้านภาพลักษณ์ไปมากกว่านี้ ในขณะที่องค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยวออกไปทำตลาดการท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่แต่กลับมาถูกลบด้วยเรื่องแบบนี้Ž นายอิทธิฤทธิ์กล่าว

 นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่กล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วจังหวัดกระบี่ต้องเอาจริงเอาจังกับแหล่งบันเทิง บาร์เบียร์ ในแหล่งท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ ไม่ว่าที่เกาะพีพี อ่าวนาง หาดไร่เลย์ และที่กำลังผุดเหมือนดอกเห็ดที่เกาะลันตา รัฐต้องจัดระเบียบสถานบันเทิงไม่ใช่ปล่อยให้เลยตามเลย และต้องยอมรับความจริงว่าสิ่งของมึนเมาสิ่งเสพติดที่แอบแฝงมากับสถานบันเทิงเหล่านี้นั้นมีอยู่จริง และไม่อยากให้แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มามีชื่อเสียงในด้านนี้เลย แต่หากภาครัฐยังปล่อยปละละเลย เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ต่อไปในอนาคต

 อ่านข่าวต้นฉบับภาษาอังกฤษ :http://www.cbc.ca/news/canada/montreal/story/2012/08/31/montreal-sisters-die-thailand-insecticide.html

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...