′กำนันแก๊′ สุดทนจวก ′บัวขาว′ที่รักเหมือนลูกเป็นจอมลวงโลก ลั่นไม่มาเคลียร์จะฟ้อง 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ 13 เหรียญ พระราม 9 "กำนันแก๊" นายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวย ป.ประมุข พร้อมด้วย "อุ ป.ประมุข" นายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ ผู้จัดการค่าย ป.ประมุข และนายวิวรรธ์ แสงสุริยะฉัตร ทนายความประจำค่าย ป.ประมุข เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีถูก บัวขาว ป.ประมุข พาดพิงเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบริหารจัดการส่วนแบ่งรายได้จากการขึ้นชกหลังจากอึกอัดใจและหนีออกจากค่ายไปเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโดยบัวขาวแสดงความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาการเป็นนักชกในสังกัดค่ายป.ประมุข

 

"กำนันแก๊" กล่าวว่า ในฐานะเจ้าของค่ายเป็นผู้เลี้ยงดูบัวขาวมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ รักและดูแลเหมือนกับลูกในไส้ พอเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ยอมรับว่า ผิดหวังมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าบัวขาวจะตัดสินใจตัดสัมพันธ์กับค่ายโดยไม่นึกถึงบุญคุณที่เคยชุบเลี้ยงกันมาจนมีชื่อเสียงโด่งดังยังคงยืนยันเช่นเดิมว่าทางค่ายยังให้โอกาสบัวขาวกลับมาอยู่กับค่ายโดยพร้อมจะให้อภัยเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกประการจะนัดคุยกันแบบส่วนตัวกับตนเองโดยไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้องก็ได้หรือจะพูดคุยกันโดยมีคนกลางเป็นคนไกล่เกลี่ยก็ได้ หรือจะใช้คนจำนวนมากในการคุยกันก็ได้ หรือจะให้ตนขับรถไปหาที่ จ.สุรินทร์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ขอให้ได้พูดคุยกัน ที่ผ่านมาที่บัวขาวออกมาให้ข่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกับทางตนเองมานานกว่า 3 ปีแล้ว ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มีแค่ช่วงประมาณ 1 ปีเศษให้หลังมานี้ที่อาจจะพูดคุยกันน้อยไปบ้าง แต่ก็ยังถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่เป็นประจำ แล้วจะไม่ได้พูดคุยกันได้อย่างไร 3 ปีเต็ม

 

"บางคนต้องลวงโลกเพราะมีความจำเป็นที่จะใช้เงิน แต่กรณีของบัวขาวเป็นการลวงโลกที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางการเงิน วันนี้พูดอย่างหนึ่ง วันพรุ่งนี้พูดอีกอย่างหนึ่ง โกหกไปเรื่อย พูดให้ร้ายผม หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเขาไม่มีวันอภัยให้กับบัวขาวแน่ มาถึงวันนี้ทุกคนต้องพูดความจริงกัน วันนี้ผมมาพูดความจริงทุกอย่างไม่มีใส่สีตีใข่ ไม่มีการปั้นน้ำเป็นตัว ลองนึกย้อนไปดูว่าตอนแรกบัวขาวบอกว่า อึดอัดใจไม่อยากชกและหนีออกจากค่ายไป ประกาศจะแขวนนวม แต่เปลี่ยนใจเปิดค่าย และจู่ๆ ก็กลับมาชกไทยไฟต์อีก" กำนันแก๊กล่าว

 

นายประมุข กล่าวต่อว่า การขึ้นชกของบัวขาวในศึกไทยไฟต์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจน ก่อนหน้านั้นตน ได้หารือกับ "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) และ นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทยฯ ก่อนหน้าการชกของบัวขาว ซึ่งตัวของผู้ว่าการ กกท.เองก็ถามเจ้าหน้าที่ กกท.ที่รับผิดชอบว่า หากบัวขาวขึ้นชกแล้วจะทำยังไง เพราะทางค่ายมวย ป.ประมุข ทำหนังสือคัดค้านและยืนยันไม่อนุญาตให้บัวขาวขึ้นชกมาแล้ว ซึ่งตนยังได้ยินเจ้าหน้าที่ กกท.บอกว่า ก็ลงโทษพักใบอนุญาตบัวขาวไม่ให้ขึ้นชก 6 เดือนตามมาตรา 39 พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ซึ่งตนคิดว่าโดนมัดมือชก


"ผมอยากให้บัวขาวกลับมาคุยกันยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ผมคงมีเวลาให้อีกไม่มาก เพราะผมก็ชักจะโมโหแล้ว ผมโทร.ไปไม่รู้กี่ร้อยสาย ไอ้ดำ(บัวขาว ป.ประมุข) มันก็ไม่เคยรับ ฝากคนไปบอกให้โทร.กลับก็ไม่ยอมโทร.มา นัดกันเคลียร์ก็ไม่ยอมมา หลบหน้าหลบตาผม หากยังยืนยันว่าจะไม่คุยกันก็คงต้องไปว่ากันตามกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย"กำนันแก๊กล่าว


ด้านนายวิวรรธน์แสงสุริยะฉัตรทนายความประจำค่ายป.ประมุข กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังถูกเบี่ยงเบนประเด็น ต้องโฟกัสไปที่การขึ้นชกของบัวขาว เมื่อวันที่ 17 เมษายน เป็นการกระทำผิดทางกฎหมายชัดเจน ในฐานะทนายความประจำค่ายจะยื่่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งในจำนวนวงเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดย 3 ฝ่ายที่จะโดนยื่นฟ้องในคดีแพ่งดังกล่าวคือ 1.บริษัท สปอร์ตอาร์ต จำกัด ในฐานะผู้จัดไทยไฟต์ 2.โปรโมเตอร์ดูแลคู่มวย คือ ทีมงานของจ่าทุย พ.อ.อ.อรรถพงษ์ อ่ำอนันต์ โปรโมเตอร์มวยชื่อดัง และ 3.การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะสมรู้ร่วมคิดให้บัวขาวขึ้นชกไทยไฟต์

 

นายวิวรรธน์ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีอาญา ที่จะดำเนินคดีคือ ฟ้องอาญา มาตรา 157 ฐานเจ้าพนักงานรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งหมายถึงนายทะเบียน ตามที่พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 กำหนดไว้ คือ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย (นายเดช ใจกล้า) ส่วนการยื่นฟ้องร้อง บัวขาว ป.ประมุข นั้นได้รวบรวมหลักฐานอยู่แต่ต้องขอหารือในรายละเอียดและได้รับอนุญาตจากกำนันแก๊ก่อน กำนันแก๊ไม่อยากให้ฟ้องบัวขาว เพราะกำนันรักบัวขาวเหมือนลูกชายคนหนึ่ง

 

"ประเด็นที่บัวขาวออกมาบอกว่าทางค่ายยืมเงินไป 3 ล้านบาทและยังมีหนี้่สินอยู่นั้น ขอยืนยันว่าไม่จริงหากเป็นเช่นนั้นให้บัวขาวเอาหลักฐานการยืมเงินมากางให้เห็นกันไป ดังนั้นข้อเสนอเรื่องส่วนแบ่ง 60-40 เปอร์เซ็นต์ และทยอยจ่าย 20 เปอร์เซ็นต์อีก 20 เปอร์เซ็นต์หักหนี้จนครบ 3 ล้านบาท หรือข้อเสนอยกเลิกสัญญาแลกกับการยกหนี้ 3 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะทางค่ายไม่ได้ติดหนี้บัวขาว 3 ล้านบาท" นายวิวรรธน์กล่าว


ทั้งนี้มีรายงานว่า บัวขาว ป.ประมุข เดินทางไปประเทศกาตาร์ เมื่อกลางดึกวันที่ 19 เมษายน เพื่อขึ้นชกโชว์ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยรายการนี้จัดขึ้นโดยชีค ทามิม บิน อัล-ธานี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศกาตาร์ เป็นประธานจัดฯ ซึ่งมีว่าที่ร้อยโท ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม อดีตเทรนเนอร์บัวขาวที่โดนค่าย ป.ประมุข เลิกสัญญาจ้างเป็นผู้ติดต่อ ซึ่งนายวิวรรธน์ ทนายความของค่าย ป.ประมุข กล่าวว่า หากบัวขาวไปขึ้นชกที่ประเทศกาตาร์อีก ทางค่าย ป.ประมุข ก็จะยื่นฟ้องผู้ติดต่อคือ ว่าที่ร้อยโท ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของบัวขาวอีกคดีหนึ่ง


 

 


 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...