“สัตว์กินคน”. ที่ยิ่งกว่านิยายสยองขวัญ.

 

 

 

 

 

 “สัตว์กินคน”. ที่ยิ่งกว่านิยายสยองขวัญ.

 

The lions of Njombe 

  

เราเริ่มรายการด้วยเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของสิงโตกินคนเป็นอันดับแรก
และผมก็เคยอ่านเรื่องนี้ในนิตยสารแปลก (แต่จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ) มันเริ่มเกิด
ขึ้นปี 1932 ในแทนซาเนียใกล้เมืองจ็อมเบ เกิดเหตุการณ์ฝูงสิงโตยักษ์ออกมา
ฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง ตำนานมีอยู่ว่าสิงโตได้รับการควบคุมโดย*ดหมอผีในชน
เผ่าท้องถิ่นชื่อมาตามูลา แมนเกรา (Matamula Mangera) ที่เธอมักส่งฝูงสิงโต
ออกมาทำร้ายคนหากใครก็ตามที่ลบหลู่เธอหรือต่อต้านเธอ

ฝูงสิงโตของเธอนั้นได้คร่าชีวิตมนุษย์ไปถึง 1,500 ศพ (บางคนบอกว่า 2,000 คน)
และนี้คือเหตุการณ์สิงโตทำร้ายมนุษย์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และหนึ่งใน
กรณีของสัตว์ทำร้ายมนุษย์เลวร้ายที่สุดที่เคยบันทึกไว้ *ดมาตามูลามี
อำนาจบาตรใหญ่มากขนาดหัวหน้าเผ่าอื่นๆ ไม่กล้ายุ่งกับเธอ

จนกระทั้งจอร์จ (George Rushby 1900–196นายพรานที่มีชื่อเสียงได้ตัดสินใจ
ปราบฝูงสิงโตนั้น เขาฆ่าสิงโตไป 15 ตัวและทำให้เหตุการณ์สิงโตทำร้ายคนยุติลง
ในที่สุด และเรื่องราวของจอร์จได้ถูกนำมาสร้างละครกึ่งสารคดี BBC ในชื่อ
“The Man-eating Lions of Njombe.” ออกอากาศในเดือนกรกฎาคม 2005

  

  Two Toed Tom   

“ทอมสองขา” เป็นจระเข้กินคนที่ค่อนข้างคลุมเครือ และยากจะทราบได้ว่า
เรื่องของจระเข้ตัวนี้เป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ตำนาน โดยจระเข้ตัวนี้เป็นตำนาน
ของอเมริกาทางตอนใต้อาศัยอยู่ในบึ่ง terrorized ในรัฐอลาบามา ชายแดน
ฟอริด้า ชื่อของมันมีที่มาจาก ขาของมันมีสองเท้า เนื่องจากขาของมันหายไป
(ขาด้านซ้ายทั้งสองข้าง หรือแล้วแต่ตำนานจะอ้าง) เพราะโดนกับดักเหล็กจน
ขาขาด และนั้นเป็นสาเหตุทำให้มันเจ็บแค้นมนุษย์ และเริ่มออกอาละวาดทำร้าย
มนุษย์ในช่วงยุค 20 หลายคนอ้างว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าสี่เมตรครึ่ง บางคนอ้างว่า
มันน่ากลัวมากเหมือนมันเป็นปีศาจส่งมาจากนรกเพื่อล่าพวกเขา มันชอบกินวัว
และมนุษย์ผู้หญิง (มันชอบคว้ากระชากเสื้อผ้าของพวกเขาแล้วลากลงไปกินในน้ำ)

แม้นายพรานท้องถิ่นจะมีการใช้ปืนหรือระเบิดแต่ก็ไม่สามารถฆ่ามันได้ จนกระทั้ง
มีนายพรานหนึ่งโยนถังที่เต็มไปด้วยระเบิด สิบห้าถังลงไปในน้ำ และจุดให้มัน
ระเบิด ทอมก็หายไป แต่หลายคนเชื่อว่าทอมน่าจะยังมีชีวิตอยู่และรอคอยโอกาส
ที่จะแก้แค้นตามแบบฉบับของมัน

และก็เป็นจริงๆ ทอมก็ปรากฏตัวมาอีกครั้ง และได้กินลูกสาวของคนโยนระเบิด
และบรรดาเด็กๆของเกษตรกรที่อยู่ตามชายฝั่ง ก่อนที่มันจะหายไปไม่กลับมาอีกเลย
มีหลายคนบอกว่าเรื่องเหล่านี้น่าจะเป็นเพียงนิทานพื้นบ้าน หากแต่ชาวบ้านในละแวก
นั้นบอกว่าเป็นเรื่องจริง และเชื่อว่ามันยังคงเดินเตร่อยู่ในหนองน้ำฟอริด้า

หลายปีจากนั้นมีรายงานพบเห็นมันต่อเนื่องถึง จระเข้ขนาดใหญ่สองขาอยู่เป็นระยะ
และที่สำคัญคือทอมไม่เคยถูกจับ

 

    Kesagake    

เหตุการณ์ ”หมีสีน้ำตาลบุกหมู่บ้านซันเคซาเบ๊ะทสึ
(The Sankebetsu brown bear incident)” เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเกี่ยวกับการ
โจมตีของหมีสีน้ำตาลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่โจมตีหมู่บ้าน
ซันเคซาเบ๊ะทสึ เมืองโทมาม่า ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 9 เดือน ธันวาคม ถึง 14 ธันวาคม 1915 โดยสมัยก่อน
นั้นหมู่บ้านแห่งนี้พึ่งจะมีคนอยู่อาศัย กำลังบุกเบิก จำนวนคนในหมู่บ้านน้อยมาก
และส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนป่าเขา และพื้นที่แห่งนี้ได้เป็นที่อยู่อาศัยของหมีเพศผู้
ขนาดยักษ์ที่หลายคนเรียกมันว่า “เคะซากาเกะ” ซึ่งมันชอบขโมยข้าวโพด
จนสร้างความรำคาญในแก่ชาวบ้าน มันเลยถูกยิงจนบาดเจ็บแล้วหนีขึ้นบนเขา
เมื่อมันหนีไป ชาวบ้านก็รู้สึกโล่งใจเพราะหมีคงจะรู้สึกกลัวคนและอยู่***งจากพืช
ผลของเขา หากแต่พวกเขาคิดผิด!!

9 ธันวาคม 1915 เวลา 10.30 น. เจ้าหมียักษ์กลับมาอีกครั้ง มันเริ่มออกปฏิบัติการ
แก้แค้นฉบับเลือดต้องล้างด้วยเลือด มันเลือกเหยื่อรายแรกของมันคือครอบครัว
โอตะ (ota Family) ในขณะนั้นอาเบะ เมยูและฮายูมิ มิกิโอะ (Abe Mayu and
Hasumi Mikio) ภรรยาของครอบครัว และทารกที่เธอดูแลอยู่ก็ถูกเจ้าหมีตัวบุกเข้า
มาในบ้านเพื่อหมายฆ่าคนทั้งสอง ทารกถูกกัดศีรษะจนเสียชีวิต ส่วนฝ่ายหญิง
พยายามต่อสู้โดย**censor**ฟืนเข้าใส่ แต่ท้ายสุดเธอก็ถูกหมีลากเข้าป่า และเมื่อชาว
บ้านมาถึงที่เกิดเหตุถึงกับต้องตะลึง โดยพวกเขาบรรยายว่าเหมือนโรงฆ่าสัตว์ไม่มี
ผิด เพราะเลือด**censor**กระจายทั้งบนพื้นและผนัง

ชาวบ้านรู้สึกโกรธแค้นหมี พวกเขาเลยจับกลุ่มสามสิบคนบุกเข้าป่าและพยายาม
ยิงมันแต่มันก็หนีไปได้ หลังจากพวกเขาสำรวจบริเวณรอบๆ ก็พบชิ้นส่วนศพที่มี
เพียงหัว และชิ้นส่วนที่เหลือของฝ่ายหญิงฝังอยู่ใต้หิมะ คาดว่าหมีคงเก็บอาหาร
ของมันไว้กินภายหลัง และหลังจากนั้นคืนถัดมา (8.00 น.) หมีก็กลับมาที่ฟาร์ม
โอตะอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านบางส่วนได้จับกลุ่มรอเตรียมรับมืออยู่แล้ว ชาวบ้านพยายาม
ยิงหมีแต่ว่ามันก็รอดไปอีก โชคดีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครบาดเจ็บ

ในเวลาไม่นานนัก เจ้าหมีได้เลือกครอบครัว มิโซเค (Miyoke family) ซึ่งอยู่หมู่
บ้านอื่นที่ไร้ทางป้องกัน (เพราะไม่นึกว่าหมีจะมา) ซึ่งเจ้าหมีตัวนี้ฆ่าคนในครอบครัว
นี้อย่างโหดเ***้ยม ซึ่งเวลานั้นภรรยาที่ตั้งครรภ์ของครอบครัวยาโย (Yayo) กำลัง
เตรียมอาหารและได้ยินเสียงข้างนอกดังก้อง และไม่ทันที่จะตรวจสอบหมีก็บุก
เข้าทางหน้าต่างแล้วเข้ามาในบ้าน หม้อปรุงอาหารพลิกคว่ำ เปลวไฟและความ
หวาดกลัวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอพยายามหนีออกจากบ้าน แต่เด็กสองคนในบ้าน
หนีไม่ทันจึงถูกฆ่าตาย และหญิงที่ตั้งครรภ์หนีไม่ไหวร้องขอชีวิตลูกในครรภ์ของ
เธอ แน่นอนมันไร้สาระ เจ้าหมีก็ฆ่าเธอเช่นเดียวกันเหยื่อก่อนหน้าของมัน

เมื่อพวกชาวบ้านมาถึงพวกเขาก็พบร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของเด็กสองคน และ
หญิงและตัวอ่อนในครรภ์ทั่วพื้นดิน เจ้าหมีตัวนี้ใช้เวลาเพียงสองวันฆ่าคนทั้งหกคน
จนทำให้ชาวบ้านละแวกนั้นหวาดกลัวเป็นอันมาก

หลังจากนั้นเจ้าหมีก็ถูกไล่ล่าอย่างหนัก (ระหว่างนั้นมันก็อาละวาดฆ่าคนไปไปด้วย)
จนในที่สุดเรื่องก็จบลงเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมนายพรานคนหนึ่งได้ยิงหมีที่เชื่อว่าเป็น
ตัวต้นเหตุได้ มันมีขนาดยาวกว่าสามเมตร หนักกว่า 380 กิโล เมื่อผ่าท้องมาก็พบ
ชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ในกระเพาะอาหารของมัน และแล้วเหตุการณ์สัตว์โจมตีที่เลวร้าย
ที่สุดในญี่ปุ่นก็จบลง หากแต่ชื่อของเจ้าหมีตัวนี้ก็ปรากฏอยู่ในนิยายและละคร
มากมาย

ปัจจุบันหมู่บ้านซันเคซาเบ๊ะทสึกลายเป็นที่ร้างคน แต่มียังมีการจำลองแสดง
เหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีรูปจำลองของหมีและบ้านโอตะที่หมีเคยมาอาละวาดตั้ง
อยู่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และการ์ตูนมังงะโบราณอย่าง “คุณเขี้ยวเงิน” หนึ่งในหมี
ที่เป็นศัตรูกับคุณเขี้ยวเงินนั้น มีหมีตัวหนึ่งนำมาจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...