ถ้อยแถลง UFOs บุกจู่โจมศูนย์ปฎิบัติการ สงครามนิวเคลียร์ [หน้า 1/4]

คำอธิบาย

เชื่อว่าผู้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ UFOs ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
มีแนวคิดอยู่ 3 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มที่เชื่อว่า UFOs มีอยู่จริง และมีปรากฎให้เห็น ในรูปแบบหนึ่งรูปแบบใด
2. กลุ่มที่เชื่อว่า UFOs มีความเป็นไปได้ แต่ยังไม่มั่นใจต่อพยานหลักฐานที่ปรากฎ
3.กลุ่มที่เชื่อว่า UFOs เป็นสิ่งหลอกลวง สร้างเรื่องเท็จโดยมนุษย์

รายงานพิเศษชุดนี้ เรียบเรียงขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ ต้องการให้เป็นฐานข้อมูล
ความรู้ เนื่องจากกรณีนี้เป็นถ้อยแถลง ประกาศอย่างเป็นทางการว่า
เอกสารรัฐบาลอเมริกา จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะเป็นการเปิดเผย
จากผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ ปัจจุบันได้เกษียณแล้ว
โดยจะยืนยันเพื่อให้หายสงสัย ในความเป็นจริง การจู่โจมของ
UFOs ที่บริเวณ ศูนย์ปฎิบัติการสงครามนิวเคลียร์

ดังนั้นเหตุผลสำคัญ คือ ผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกย่อมมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ รับทราบ
ในกรณีดังกล่าว ว่า มีความเป็นจริงเพียงใด ที่อาจมีสิ่งที่อยู่ในโลกอื่น
กำลังคุกคามโลก โดยข้อมูลถูกปิดบังไว้
และอย่างน้อยผู้ที่ออกถ้อยแถลง มีตัวตนจริง มีประวัติและมีสถานะ
อยู่ในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง คือ ฐานขีปนาวุธ สามารถตรวจสอบได้

อย่างไรก็ตาม รายงานชิ้นนี้ จัดทำขึ้น ไม่มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาให้เกิด
ความเชื่อ หรือไม่เชื่อใดๆ เกี่ยวกับ UFOs จึงขอให้ผู้อ่านใช้
ดุลยพินิจ ตัดสินด้วยตนเองต่อข้อมูลดังกล่าวนี้

ในกรณีต้องการใช้ข้อมูลนี้เพื่อเผยแพร่
กรุณานำคำอธิบายนี้ไปแสดงด้วย

    

..............................

 

 
Press Conference
27 September 2010
UFOs At Nuclear Weapon Bases
 
 
ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยโดยการแถลงข่าว
   
อนึ่ง ถ้อยแถลงดังกล่าวนี้ มีความยาว 1 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อถอดความแล้วมี
ความยาว 25 หน้า (A-4) โดยบางช่วงมีเนื้อหาประโยคพูดที่ซ้ำ หรือมีการขยาย
ความมากเกินไป หรือบางช่วงมีสาระสำคัญน้อยเกินไป ผู้เรียบเรียงจึงขออนุญาต
ตัดทอนให้เนื้อหากระชับขึ้น เพื่อให้เข้าใจง่าย และปรับแก้ไขสรรพนาม ทั้งนี้ยัง
คงประเด็นถ้อยแถลงที่ มีความสำคัญไว้

ถ้อยแถลงจาก ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ
----------------------------------------------------

หน้าที่ 1
Robert L. Hastings - ผู้นำการแถลงข่าว
Robert Salas (former USAF nuclear missile launch officer)
Dwynne Arneson
(USAF Lt.Col. Ret., communications center officer-in-charge)

หน้่าที่ 2
Robert Jamison (former USAF nuclear missile targeting officer)
Charles I. Halt (USAF Col. Ret., former deputy base commander)

หน้าที่ 3
Jerome Nelson (former USAF nuclear missile launch officer)
Patrick McDonough (former USAF nuclear missile site geodetic surveyor)
Bruce Fenstermacher (former USAF nuclear missile launch officer)

หน้าที่ 4
Robert Salas - กล่าวสรุป
(former USAF nuclear missile launch officer)

   
Robert Hastings - ผู้ทำหน้าที่พิธีกร นำการแถลงข่าว
   
Robert L. Hastings

บ้านเกิดพำนักใกล้กับ ศูนย์ปฎิบัติการสงครามนิวเคลียร์ ที่ Sandia ใน New
Mexico บิดารับราชการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในตำแหน่งจ่าอาวุโส จากเหตุ
ดังกล่าวที่อยู่ใกล้กับ ฐานขีปนาวุธ จึงได้เห็นปรากฎการณ์ UFOs เมื่อ ปี 1967
(*ประวัติอย่างเป็นทางการของ Robert Hastings*)

การศึกษาจบด้านช่างภาพ ที่ Ohio University และทำงานที่ Northern Illinois
University เป็นผู้บรรยายและวิจารณ์ เรื่อง UFOs ในสถาบันระดับวิทยาลัย
และมหาวิทยาลัยกว่า 500 แห่ง มีผลงานด้านหนังสือ UFOs เฉลี่ยปีละ 25 เล่ม
เป็นผู้นำการเปิดเผย ประกาศอย่างเป็นทางการว่า

เอกสารรัฐบาลอเมริกาจะไม่เป็นความลับ อีกต่อไป เพราะเป็นการเปิดเผย จาก
ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐ ปัจจุบันได้เกษียนแล้วนั้น โดยจะยืนยันเพื่อ
ให้หายสงสัย ว่าความเป็นจริง การจู่โจมของ UFOs ที่บริเวณศูนย์ปฎิบัติการ
สงครามนิวเคลียร์

หากกล่าวถึง UFOs ผู้เคยพบเห็น มักอธิบายว่าเป็นอากาศยาน รูปร่างคล้าย
จานกลมแบน หรือทรงกระบอก หรือทรงกลม โดยเป็นวัตถุที่มีประสิทธิภาพ
สามารถ บินโฉบเฉี่ยวด้วย ความเร็วสูง แต่เงียบอย่างไม่มีที่ติ ควบคู่กัน

มากกว่า 37 ปีที่ผ่านมา มีการไต่ถามและ สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการจากผู้คน
ในพื้นที่หรือทหารที่ได้เกษียนแล้ว มากกว่า 120 ราย ทั้งหมดไม่ว่าใครรายงาน
ว่า เห็น UFOs ต่อเนื่องมากกว่า 1 ครั้ง ในบริเวณนั้น คือ

บริเวณฐานยิงนิวเคลียร์ บริเวณคลังเก็บอาวุธ สงครามนิวเคลียร์ และสนามทด
สอบสงครามนิวเคลียร์ ในเนวาด้า และบริเวณทดลองยิงนิวเคลียร์ สู่บรรยากาศ
โลกที่มหาสมุทรแปซิฟิค

ในยุคอดีต ผมเชื่อว่า ทุกท่านเชื่อว่า โลกของเราได้ถูกผู้ที่มาโลกอื่น เริ่มต้นการ
เยี่ยมเยียนขึ้นแล้ว ใครหรืออะไรก็ตาม มีเหตุผลสนใจ กองทัพนิวเคลียร์ของเรา
ซึ่งได้เริ่มต้นจากการจบลงของ สงครามโลกครั้งที่ 2

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นเรื่องการหยุดทำงานของขีปนาวุธ เป็นข้อวินิจฉัยของผม
เป็นข้อวินิจฉัยของท่านทั้งหลาย อาจเหตุจากผู้ที่อยู่บนอากาศยาน ส่งสัญญาน
มาจากวอชิงตัน จากมอสโค หรือ จากที่อื่น ทั้งหมดนั้น เปรียบเสมือนเล่นกับไฟ
เป็นการคุมคาม ขู่เข็ญ โดยใช้ประโยชน์จากอาวุธ นิวเคลียร์ เพื่อมีศักยภาพ
ควบคุมมนุษย์ชาติ และเพื่อควบคุม ความมั่นคงสภาพแวดล้อมโลก
   
Robert Salas
   
Robert Salas
(former USAF nuclear missile launch officer):

ปี ค.ศ.1967 ผมมีตำแหน่งเป็นเรืออากาศโท ในกองทัพอากาศ ที่ Malmstrom
Air Force Base ใน Montana เป็นเจ้าหน้าที่ ปฎิบัติการยิงขีปนาวุธ และในวันที
24 มีนาคม ปี 1967 ผมรับผิดชอบ Oscar Flight (*แผนที่กลุ่มฐานขีปนาวุธ*)
ซึ่งเป็นแคปซูลที่มีความมั่นคงแข็งแรงอยู่ใต้ดิน ลึกลงไป ราว 60 ฟุต โดยมีหน่วย
รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านบน เรียกว่า Flight Security Controller

ในวันที่ 24 เดือนมีนาคม ผมได้รับโทรศัพท์ จากหน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่
ด้านบนแคปซูล ว่าสังเกตเห็นแสงแปลกๆ เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เหมือนวิ่งหลบ
ไปหลบมาบนท้องฟ้า จึงต้องการรายงานให้ทราบไว้

ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรรายงาน เพราะรู้สึกน่ากังวล คุณต้องมีความเข้าใจว่า
เรามีหน้าที่ปกป้อง ฐานยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ และเราต้องรายงานเป็นโดยปกติ
เป็นความสำคัญต่อหน้าที่รับผิดชอบ ทุกเรื่องจะนิ่งเฉยไม่ได้

หลังจากนั้นราว 5 นาที เขาโทรศัพท์กลับมาอีก ด้วยเสียงตะโกนว่า “เห็นวัตถุ
แล้ว มีสีแดง แวววาว บินโฉบเฉี่ยวด้านหน้าประตูทางเข้า เส้นผ่าศูนย์กลางราว
30 ฟุต เขาไม่สามารถ บอกรายละเอียดของวัตถุได้มากไปกว่านี้ เพราะมันเต้น
เป็นจังหวะน่าตกใจ” โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นด้วยกันทั้งหมด

ผมคิดและพูดบางอย่างว่า “แน่ใจน่ะ ว่าเข้ามาในเขตภายในรั้วของเรา” ผมจึง
ต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาผม คือ เรืออากาศโท Fred Meiwald ให้รับทราบ

ขีปนาวุธของเราก่อนยิงออกไป จะถูกกำหนดไว้ที่เงื่อนไข No-Go หรือเรียกว่า Unlaunchable เป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อให้ไร้ความสามารถ ซึ่งถ้าวัตถุที่บินโฉบ
เฉี่ยวเหนือฐานยิงขีปนาวุธของเรา อาจเข้าควบคุมระบบได้ง่าย นั้นคือจุดที่เป็น
ระเบียบและแนวทางป้องกัน
     
Malmstrom Air Force Base ใน Montana
   
เขารายงานเหตุการณ์รับคำสั่ง รักษาความปลอดภัย ระดับ Light หมายความ
พร้อมรับมือจากการจู่โจม ที่อะไรบ้างอย่างอาจเข้าควบคุมระบบ ฐานยิงขีปนาวุธ
ของเรา ดังนั้นผมจึงเรียกหน่วย รักษาความปลอดภัยกลับมาอยู่ภายในชั้นบน
และส่งชุดปฎิบัติการเฉพาะกิจไปด้านนอก

ที่จุดนี้ชุดปฎิบัติการเฉพาะกิจ แจ้งกลับมาว่าเห็นวัตถุอยู่ด้านซ้าย มีความเร็วสูง
มาก แต่เงียบไม่มีเสียงรบกวนใดๆออกมา หน่วยรักษาความปลอดภัย จึงออกไป
ตรวจสอบและรายงานกลับมาทางวิทยุติดต่อว่า เห็นวัตถุนั้้นอีก แต่ต่อมาเสียง
วิทยุติดต่อขาดหายไป ทั้งหมดของเหตุการณ์จึงยุติลงที่จุดนี้

เราจึง Restart เสียงเตือนระบบความปลอดภัยใหม่ แต่ระบบขีปนาวุธยังหยุดนิ่ง
ไม่ตอบสนอง เราต้องแจ้งทีมด้านบำรุงรักษาเพื่อเข้ามาตรวจสอบ เพื่อ Backup
ระบบเตือนภัยใหม่

โดยหลักเกณฑ์เรามีอุปกรณ์เครื่องมือ และแนวทางปฎิบัติ หากระบบควบคุมเกิด
ล้มเหลว ผมต้องตอกย้ำความสำคัญ เรื่องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใน
ชั้นบนว่า จะไม่มีอำนาจในระบบควบคุมเหนือไปกว่าน้ัน เพราะชั้นบนไม่มีเครื่องมือ
หรืออุปกรณ์ใดๆ และไม่มีทักษะใดๆ ในเรื่องปิดระบบการเตรียมพร้อมของฐานยิง
ขีปนาวุธของเรา ทั้งหมดของระบบอยู่ในชั้นใต้ดิน
   
ลักษณะทั่วไปด้านบนของฐานขีปนาวุธ
   
ไซโลเก็บขีปนาวุธอยู่ด้านล่างใต้ดิน
   
เช้าวันถัดมา ผมรายงานกลับไปยัง ผู้บังคับบัญชาว่า ผมเสียใจที่มีรายงานถึงฝูง
บินที่ฐาน Malmstrom เหมือนเป็นการรายงาน เพียงบนกระดาษเปล่า เพราะไม่
สามารถอธิบายเหตุกาณ์ให้กระจ่างได้เลย

ผมได้ถามผู้บังคับบัญชาว่า เจาะจงได้หรือไม่ว่า มีปฎิบัติการพิเศษของกองทัพ
อากาศ เขาตอบว่ามั่นใจว่า ไม่ใช่การปฎิบัติการพิเศษ ของกองทัพอากาศ และ
เราทั้งหมดเป็นสมาชิก ของกองทัพอากาศ จงค้นหาความจริงกันเพียงในห้อง
เขาสั่งการว่า “ตามระเบียบเราจะไม่มีการพูดในเรื่องนี้อีกต่อไป”

กระทั่งผมต้องแสดงอาการใบ้ ไม่เปิดเผยเอกสารใดๆเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ
แต่นั้นมา นี้คือ สิ่งที่ไม่สามารถพูดได้ จนถึง ปี 1994 เกิดมีข้อความไม่กี่บรรทัด
ในหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ Above Top Secret โดย Timothy Good ในหน้่าที่ 301
แสดงข้อความสั้นๆว่า

ฐานยิงขีปนาวุธ ถูกสั่งปิดการเตรียมพร้อมโดย UFOs ที่อยู่เหนือฐานบิน ในจุดนี้
ผมได้รับความช่วยเหลือจาก Mr. James Klotz เป็นผู้สอบสวนเรื่องราว เราต้อง
การเรียกร้อง โดยส่งเอกสารไปยังกองทัพอากาศ ว่า

เหตุใดในเรื่อง ฐานยิงขีปนาวุธถูกสั่งปิด การเตรียมพร้อม ไม่กล่าวพาดพิงถึง
UFOs เราต้องการให้กองทัพอากาศ ประกาศอย่างเป็นทางการ และมิให้เรื่อง
นี้เป็นความลับอีกต่อไป
   
ระบบควบคุมขีปนาวุธ ทั้งหมดอยู่ในชั้นใต้ดิน
   
Dwynne Arneson
   
Dwynne Arneson
(USAF Lt.Col. Ret., communications center officer-in-charge):

หลังจากรับปริญญา ด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ผมเข้าทำงานในกองทัพอากาศ
รับผิดชอบงาน การสื่อสารด้านอิเล็คโทรนิก เป็นเวลา 26 ปี โดยครอบคลุมภาค
พื้นเหนือโลกทั้งหมด ความสำคัญคือ

ต้องควบคุมแลกเปลี่ยน ด้วยความลับสุดยอด ด้วยรหัสลับ พิเศษ มีลักษณะแตก
ต่างจากข้อมูลทั่วๆไป เป็นกลุ่มที่ต้องมี ความสามารถพิเศษในการถอดรหัส ซึ่ง
ทั้งหมดต้องแจ่มแจ้ง แหลมคม สมบูรณ์

กลับไป ปี 1967 ผมต้องดูแลศูนย์กลางการสื่อสารด้านอิเล็คโทรนิก เป็นปีที่ 20
ของตำแหน่ง Air Division ที่ Great Falls ใน Montana รับผิดชอบเป็นผู้เก็บ
รักษารหัสลับ ผมต้องรักษาความลับ ควบคุมสำนักงานในแผนกและผมจะผ่าน
เข้าออกบริเวณฐานยิงนิวเคลียร์

ในเดือ มีนาคม มีความผิดปกติ ด้วยผมเคลียร์ล้างข้อมูลคำสั่งระบบ ที่ส่งเข้ามา
ยังศูนย์กลาง การสื่อสารด้านอิเล็คโทรนิกอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานเบื้องต้น
ของระบบได้เคลียร์หมดจดแล้ว ตามที่ Robert Salas บอกไว้แต่ต้น

แต่ UFOs ยังสามารถปิดระบบ Several ของขีปนาวุธ ในไซโลที่ Montana ได้
ผมไม่เคยทราบเริ่องประเภท ของขีปนาวุธ และไม่เคยรู้ เรื่อง Oscar Flight และ
Echo Flight (ซึ่งทั้ง 2 แห่งคือฐานยิงขีปนาวุธ) ดังนั้นจึงไม่สามารถบรรยายใน
รายละเอียด ข้อเท็จจริงของขีปนาวุธ ที่ปิดระบบการเตรียมพร้อมด้วยตัวเองได้

จากนั้น ในกลางปี 1970 และราวๆ ปี 1975 ผมได้เป็นผู้บัญชาการสถานีเรดาห์
ใน Maine ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ ฐานทัพอากาศ Loring เป็นบางครั้งบางคราวเจ้าหน้าที่
รักษาความปลอดภัยของผม ต้องเปลี่ยนแปลง รหัสตำรวจรักษาความปลอดภัย
และสองครั้งที่บอกแจ้งให้ผมเพิกถอน เพราะเขาเห็น UFOs บินอยู่เหนือบริเวณ
ศูนย์สงครามนิวเคลียร์ และที่ ฐานทัพอากาศ Loring ซึ่งมีฐานของเครื่องบินทิ้ง
ระเบิด
     
Loring คือฐานทัพอากาศ ใน Maine ซึ่งมีฝูงบินทิ้งระเบิด B-52 ในยุคนั้น
   
ผมไม่ทราบอะไรในรายละเอียดเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง ผมไม่ทราบเรื่องอาวุธนิวเคลียร์
ที่เสียหายหรือเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี ผมไม่เคยเห็นรายงานนั้น ผมจึงไม่สามารถ
พูดได้

หลังจากผมเกษียณจาก ฐานทัพอากาศ ผมได้ไปทำงานให้กับ Boeing เกี่ยวกับ
Computer systems analyst และ Robert Salas ไม่เคยเอ่ยอะไรในเรื่องเหล่านี้
แต่ครั้นหนึ่ง ขณะผมมีตำแหน่ง เป็น Supervisors ที่ Boeing ได้พบกับ Robert
Kaminski ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว เขาเป็นวิศวกร ถูกคัดเลือกโดย Boeing ให้
ออกไปไต่สวนหาความจริง เรื่อง UFOs ปิดระบบ Several ของขีปนาวุธ

เขาพักอาศัยอยู่ใกล้ๆกับผมที่ รัฐ Washington เรามักจะพบกันเนืองๆในวันเสาร์ เพื่อโต้แย้งกัน เรื่อง UFOs และเรื่องอื่นๆ และเขาพูดว่า

“มันถูกต้องสมบูรณ์ และมันจะไม่ปิดระบบ ได้ด้วยตัวเอง” ในขณะนั้นเขาพูดได้
แค่ครึ่งทาง จนกระทั่งมีการไต่สวนความจริงแล้ว กองทัพอากาศ ส่งเอกสารให้
กับ Boeing ด้วยข้อความว่า “จงหยุดไต่สวนและไม่ต้องทำ” เพราะเป็นการทำซ้ำ
และไม่ต้องส่งรายงานกลับมายัง กองทัพอากาศ

เขาบอกกับผมว่า เรื่องนี้เป็นการพูดแบบส่วนตัว โดยมีความแตกต่างกัน 2-3
เหตุผลและทั้งหมดนั้น ไม่มีความลังเลใจ ส่วนสุดท้ายคือ “เชื่อหรือไม่ว่าผมศึกษา
เรื่อง UFOs มามากว่า 60 ปีแล้ว” และผมเชื่อมั่นว่ามีใครบางคนได้ทดลองส่งข้อ
ความรหัสลับนั้น และถ้าผมทราบว่าใครเป็นคนกระทำ คงไม่ได้อยู่ตรงนี้

 

นำมาเสนอเผื่อคนที่ยังไม่เคยทราบข้อมูลค่ะ :D

 

ขอบคุณที่รับชมค่ะ^^~

15 ก.ย. 54 เวลา 12:53 8,075 12 170
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...