ชีวิต(จริงยิ่งกว่าละคร)ของเด็กชาย บาโลเตลลี่

 ได้รับการยอมรับว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการฟุตบอลอิตาลีสำหรับนัก เตะ เจ้าของฉายา “ซุปเปอร์มาริโอ” มาริโอ บาโลเตลลี่ ศูนย์หน้าผิวหมึกที่มีพรสวรรค์ติดตัวมาแต่กำเนิด ไม่เพียงผลงานในสนามเท่านั้นที่ทำให้เขาดังระเบิดเถิดเถิง หากแต่พฤติกรรมส่วนตัวทั้งนอกและในสนามก็สร้างความโด่งดังให้เขาไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเรื่องกำพืดเดิมของเขาที่วันนี้จะเอามาเล่าสู่ให้ฟังกัน

 

มาริโอ(ซ้าย) กับแม่และพี่ของเขา



     จากประวัติส่วนตัวของเขา แท้จริงมาริโอมีพ่อแม่เป็นชาวกาน่า โดย กำเนิด พ่อแม่ของเขาคือโธมัสและโรส ซึ่งอพยพจากกาน่าเข้ามาในอิตาลี นามสกุลเดิมของตระกูลนี้คือบาร์วูอาห์ โดยมาริโอมีพี่น้องร่วมท้องอีก 3 คน

 

บาโลเตลลี่(ขวา) กับเพื่อนวัยเด็ก



     ครอบครัวของมาริโอมีฐานะยากจน โธมัสเป็นเพียงกรรมกรในโรงงานเหล็ก เขาเล่าว่ามาริโอเกิดมาพร้อมกับปัญหาที่ลำไส้ “มีปัญหาที่ลำไส้ของมาริโอและอาการของเขาเลวร้าย คุณหมอกังวลว่าเขาอาจจะไม่รอด” โธมัสเล่า

     ทว่าหลังการผ่าตัด มาริโอมีอาการดีขึ้น โธมัสบอกว่าการที่ต้องใช้ชีวิตกันอย่างคับแคบในแฟลตร่วมกับครอบครัวชาว แอฟริกันหลายครอบครัวทำให้เขาตัดสินใจขอความช่วยเหลือไปที่นักสังคม สงเคราะห์ ซึ่งนักสังคมสงเคราะห์ได้แนะนำให้ครอบครัวบาร์วูอาห์ส่งตัวมาริโอซึ่งมี อาการดีขึ้นหลังการผ่าตัดให้ได้รับอุปการะจากพ่อแม่บุญธรรม ซึ่งทำให้ ฟรานเชสโก้และซิลวิโอ บาโลเตลลี่ ครอบครัวชาวอิตาลีก้าวเข้ามารับตัวมาริโอไปเลี้ยงดูตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ

 

บิดาแท้ๆของบาโลเตลลี่



     “ตอนแรกเราไม่แน่ใจแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่านี่เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับมาริโอ เราได้พบลูกทุกสัปดาห์และเราไปกันได้ดี” โธมัสบอกว่า การอุปการะมาริโอตามที่ตกลงกันไว้ในเบื้องต้นจะกินเวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็ถูกยืดออกไปเป็นอีก 12 เดือน สุดท้ายมันถูกยืดออกไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าการนำตัวมาริโอกลับมาสู่ครอบครัวจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้ว

 

ฟรานเชสโก้และซิลวิโอ พ่อแม่บุญธรรมของเขา



     “เราไม่สามารถจ้างทนายมาสู้ความได้ ขณะที่มาริโอนั้นโตขึ้นเรื่อยๆ(ภายใต้การอุปการะจากครอบครัวบาโลเตลลี่) เขามาเยี่ยมเราและเล่นกับพี่น้องของเขา แต่เขาไม่ได้มีเวลาให้เราเหมือนเดิม เป็นเวลากว่า 10 ปีที่เราอยากให้เขากลับมาอยู่กับเรา แต่ทุกครั้งที่เราพยายามศาลกลับไม่อนุญาติ เวลาหลายปีผ่านไปเขากลับกลายเป็นคนเย็นชาใส่พวกเรา ครอบครัวบาโลเตลลี่รู้จักคนเยอะและมีอิทธิพลขณะที่เราทำอะไรไม่ได้เลย”

 

ครอบครัวบาร์วูอาห์ ตอนนี้อาบิเกล(คนหน้า)พี่สาวของเขากลายเป็นดาราดังไปแล้ว



     หลังจากนั้นมาริโอเปลี่ยนนามสกุลของเขาเป็นบาโลเตลลี่ เรื่องนี้พ่อแท้ๆ ของเขาเล่าว่า “เราไม่รู้อะไรเลยจนกระทั่งเราได้เห็นข่าว ผมไม่รู้ว่าเขาใช้นามสกุลบาโลเตลลี่ ผมยังคิดว่าเขาใช้นามสกุลของเราอยู่” จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 18 ปี บาโลเตลลี่ได้สัญชาติอิตาลีและเขาปฏิเสธที่จะเล่นในนามทีมชาติกาน่าแม้ว่า ทางกาน่าจะพยายามนำตัวเขามาเล่นให้ก็ตาม

     อย่างไรก็ตามมาริโอเคยออกมาพูดตอบโต้พ่อแม่ของเขา โดยเขาบอกว่า “ถ้าผมไม่กลายเป็นมาริโอ บาโลเตลลี่ นายและนางบาร์วูอาห์คงไม่แคร์อะไรเกี่ยวกับผมหรอก ผม ได้รับการเลี้ยงดูโดยครอบครัวบาโลเตลลี่ ไม่มีใครถามถึงครอบครัวบาร์วูอาห์ แต่ตอนนี้พวกเขากลับออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมทำหน้าเศร้าๆ และถือรูปผมในชุดอินเตอร์ มิลาน ทำไมเขาไม่เคยร้องขอให้ศาลเอาตัวผมกลับไปตั้งแต่ผมหายจากอาการป่วย พ่อแม่บุญธรรมของผมเคยพาผมไปหาพวกเขาแต่พวกเขาไม่เคยมาที่บ้านของเราเลย แต่ตอนนี้พอผมกลายเป็นผู้เล่นเซเรีย อา พวกเขากลับอยากให้ผมกลับไป”

 

บาโลเตลลี่สมัยเล่นให้ทีมเยาวชน

คงต้องจบประวัติคร่าวๆ ของศูนย์หน้าหนุ่มเจ้าปัญหารายนี้ไว้ก่อน และคงต้องบอกว่าเหตุการณ์และเรื่องราวจริงๆ นั้นเป็นอย่างไรเราก็ไม่อาจรู้ได้ คุณผู้อ่านก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิดเพียงแต่อ่านเป็นเกร็ดความรู้ไว้ละกัน คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะเอาเรื่องราวยุ่งๆ สมัยเป็นนักเตะของบาโลเตลลี่มาเล่าให้ฟัง รับรองว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...