Salt ( สวยสังหาร ) .... 3 ดาว .....

.........................ฟิลิปส์ น๊อยส์ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้เคยมีผลงานหนังแอคชั่นระทึกขวัญออกมาหลายต่อหลายเรื่อง แต่ก็เงียบหายไปจากวงการพักใหญ่ ก็ยังแอบนึกว่า ด้วยวัยที่ชราภาพไปเยอะ ไม่แน่ใจว่าจะยังทำหนังได้มันส์สะแด่วแห้วเหมือนเดิมหรือเปล่า ? แต่ที่ไปดูก็เพราะว่า แองจี้ เป็นเหตุผลหลักนั่นแล !! ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆ แอบเห็นเครดิตแว่บๆ ไบรอัน เฮลเจลแลนด์ มาช่วยเขียนบทด้วย น่าจะเป็นคนเกลาบทมากกว่า เจ้าของบทหนังตัวจริง แต่งานนี้บอกได้เลยว่าช่วยได้ไม่เยอะ เพราะพล็อตและบทหนังเรื่องนี้มันแบบว่า โบราณกาลมากมาย มีที่ใหนเอาเรื่องมุขสายลับ อเมริกา รัสเซีย สงครามเย็น มาเล่นกันในสมัยนี้ ไม่มีใครเขาเชื่อกันแล้วครับ !! แถมเนื้อหาในหนังยังทำเอาหน่วยงานของรัฐ อย่างหน่วยงานอารักขา ดูกลายเป็นเด็กขายของเล่นไปเลยทีเดียว เพราะว่าแค่สายลับ คนสองคน ก็บุกเข้าไปลอบสังหารคนสำคัญได้ง่าย ๆ ซะ ?

.........................นางเอก แองเจลิน่า โจลี่ เล่นเป็น เอฟเวอร์รีน ซอลท์ จารชน สายลับซีไอเอ ฝ่ายอเมริกัน มีหน้าที่ปฏิบัติภารกิจลับทั่วไป แต่ด้วยความที่เธอแต่งงานแล้ว ก็เลยอยากจะเปลี่ยนมาทำงานนั่งโต๊ะบ้าง ก่อนจะเจอสายลับรัสเซียคนนึงแฉเข้าว่า จริงๆแล้วแท้จริงแล้วตัวเธอนั่นน่ะ เป็นสายลับสองหน้า คือเป็นไส้ศึกของฝ่ายรัสเซียที่แฝงตัวเข้ามาปฏิบัติภารกิจในสหรัฐ แล้วตกลงว่า ใครคือ Salt ? กันแน่ล่ะ ? เราจะเชื่อความจริงจากใครได้บ้าง เราจะเชื่อนางเอกได้ใหม ? จะเชื่อเพื่อนนางเอกได้ใหม ? จะเชื่ออีกฝ่ายได้ใหม ? จะไว้ใจใครได้บ้าง ? แล้วความจริงทั้งหมดคืออะไรกันแน่ ? ต้องไปติดตามชมในโรงภาพยนตร์กันเอง .. งานนี้ขอบอกไว้เลยว่า แม้แต่ผมเองก็ยังเดาผิดเลยครับ เพราะมันหักมุมได้ฉลาดพอตัวนะครับ ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วอยากจะลองดึงหน้าคนข้างๆตัวดูเลยว่า ใส่หน้ากากเอาไว้หรือเปล่า หรือบางทีเป็น Salt ปลอมมาป่ะ

.........................Salt เป็นหนังที่ขาดความสมเหตุสมผลหลายอย่าง และเต็มไปด้วยความโม้แบบโอเว่อร์ แต่แปลกที่แม้จะโม้สะบั้นหั่นแหลก และเกินจริงขนาดใหน แต่ผมกลับรู้สึกอินและเชื่อ รวมถึงสนุกไปกับตัวหนังมากๆๆๆ คงเพราะความเป็นผู้หญิงของ แองจี้ ช่วยไว้ได้เป็นอย่างมาก ต้องบอกว่าเธอแสดงดี และน่าจะเป็นราชินีหนังบู๊หมายเลข 1 ของ พ.ศ.นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว !! หลายๆฉากที่ดูแบบว่า ไม่น่าเชื่อว่าคนธรรมดาจะทำได้ แต่เรากลับดูแล้วเชื่อว่านั่น แองจี้เล่นเอง แสดงว่าเราโดนดึงดูดเข้าไปให้เอาใจช่วยกับตัวละครของเธออย่างเต็มตัวซะแล้ว ~ ฉากแอคชั่นถูกใส่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และถูกจังหวะ ทำให้เราได้ลุ้นกันอย่างหายใจไม่ทั่วท้อง เล่นเอาเหงื่อซึมมือกันเลยทีเดียว นอกจากเล่นบู๊ได้ถึงใจทุกฉากแล้ว ฉากที่ต้องโชว์ซีนอารมณ์ แองจี้ก็เล่นได้อย่างมีมิติ เสียดายอย่างเดียวหนังสั้นไปหน่อย ดูจบแล้วอยากชมภาคต่อจังเลย ~