ตีแผ่ความโหดร้ายในอินโดนีเซีย กับเรื่องลวงโลก

 

                                                 หลังจากที่Fwm.เรื่องของความโหดร้ายที่ชาวอินโดกระทำการสังหารโหดชาวจีนที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซีย และเรื่องราวนี้ได้แพร่กระจายในเวบต่างๆ มีผู้เสพสื่อหลายท่านแสดงความคิดเห็นในทางเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ใช่แล้วครับ จะเชื่อถือได้ยังไงกับFwm.(หรือแค่ดูรูปผู้ตายก็รู้แล้วว่ามันคนละหัวกัน มีอย่างที่ไหนคนอะไรตัดหัวปุ๊บแก่ปั๊บ) แล้วความจริงของเรื่องนี้มันคืออะไรกันแน่ วันนี้ผมจะนำเสนอเรื่องจริงผ่านจอคอมให้ทุกท่านได้รับชมกัน

                                                 เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้น ณ ประเทศอินโดนีเซีย ในปลายปีค.ศ.1996 บนเกาะขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่าบอร์เนียว โดยแบ่งออกเป็น3รัฐคือ รัฐซาราวัก รัฐซาบห์ และรัฐที่อยู่ทางตอนใต้นามว่า กาลามันตัน ที่เกิดเหตุการสังหารโหดครั้งนี้ ขอย้อนกลับไปในอดีตของอินโดนีเซียอีกนิดนะครับ แต่เดิมชาวอินโดอาศัยอยู่เป็นเผ่าต่างๆทั่วทั้งเกาะ และหนึ่งเผ่าในตำนานที่มีชื่อเสียงร่ำลือในด้านความดุร้าย โหดเหี้ยม และนิยมตัดหัวคนนั่นก็คือ เผ่าดยัค เมื่อความเจริญหลั่งไหลเข้ามาเผ่าดยัคก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคม บ้างก็เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตเมืองกาลามันตันเช่นเดียวกับเผ่าอื่น แต่มีเผ่าเดียวที่ดยัคไม่ชอบขี้หน้า นั่นก็คือ เผ่ามาดูเรสี
ต้นตอแห่งความขัดแย่งที่นำมาสู่การฆ่า469ชีวิตนั้น เกิดจากเรื่องราวของหนุ่มดยัค2คน ที่ถูกชาวมาดูเรสีแทงตาย และตำรวจก็คว้าน้ำเหลวในการหาตัวคนร้ายมาลงโทษ สุดท้ายกลุ่มดยัคเลือดร้อนก็บุกเผาบ้านของมาดูเรสี สังหารคนต่างเผ่า ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง คนแก่ หรือแม้กระทั่งลูกเล็กเด็กแดง

                   บางคนก็บอกว่าเป็นรูปตัดต่อแต่ภาพนี้คือภาพจริงเพียงแต่นี่ไม่ใช่เด็กชาวจีนที่คนทำภาพอ้างถึงเท่านั้นเอง 

        ...............................................................................................         

เห็นได้ว่า แค่เติมคำว่าChiainese Boyก็ลวงโลกได้แล้ว

                                     ............................................................                                   

ขอเล่าถึงพิธีกรรมสงครามของเผ่าดยัคอีกหน่อยครับ นั่นก็คือการตัดหัว และกินเครื่องในศัตรู(โดยเฉพาะตับ คงหวานน่าชิม) ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุตดึกดำบรรพ์ ย้อนกลับไปยุคล่าอาณานิคมเมื่อร้อยปีก่อน  ครั้งนั้นชาวดัชท์หลายร้อยคนถูกไล่ล่าและตัดหัวเอาไปเป็นของฝากลูกเมียที่บ้าน เพราะการบุรุกครั้งนี้ถือว่า ชาวดัชท์หมิ่นศักดิ์ศรีพวกเขา
สงครามครั้งนี้ยิ่งทวีความรึนแรงยิ่งขึ้นอย่างหนัก เมื่อคำพูดพล่อยๆของชาวมาดูเรสีที่หลุดปากออกไปว่า ชาวดยัคเป็นชนเผ่าที่ล้าหลัง ดึกดำบรรพ์ และคำพูดที่เหยียดหยามชาวดยัคที่สุดคือ เป็นพวกกินเนื้อมนุษย์(อันนี้ผมเข้าใจว่า ชาวดยัคกินเพราะพิธีกรรมทางสงคราม ไม่ได้ล่ามนุษย์เพื่อมากินเป็นล่ำเป็นสันเหมือนหมูเหมือนไก่)

ความละม้ายคล้ายคลึงของใบหน้าศพกับรูปต่างกันลิบ

.................................................................

 

                            ถึงแม้ชาวดยัคเป็นชนเผ่าที่มีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับเผ่าอื่น(จะเรียกว่าน้อยเลยก็ว่าได้)แต่ด้วยความเป็นเผ่านักรบที่มีอยู่ในสายเลือด การสู้รบจึงเรียกได้ว่า มีชัยแทบทุกครั้ง ลองดูรายงานการสำรวจของหน่วยงาน "กลุ่มเหตุการณ์วิกฤตินานาชาติ" International Crisis Group(ICG) ได้รวบรวมตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด 469 คน ในจำนวนนี้มีชาวมาดูเรสี 456 คน และผู้บาดเจ็บราว 748 คน ดังนั้นผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวดยัคคงมีเพียง13คนเท่านั้น (นี่เป็นรายงานคราวๆคงมีผู้ตกหล่นไปบ้างครับ)
นอกจากการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามแล้ว สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและถูกเอารัดเอาเปรียบคือ การที่ชาวมาดูเรสีได้เป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ก่อร่างสร้างตัวในเกาะบอร์เนียว บุกรุกพื้นที่และถางป่าอันเป็นบ้านและแหล่งหากินของชาวดยัค ด้วยวิธีอันชาญฉลาดแกมโกงและได้ช่องทางต่างๆจากการคอร์รัปชั่นของนักการเมืองในยุคของ ปธน.ซูฮาร์โต เรื่องอำนาจ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างและชนชั้นของสองเผ่าห่างกันยิ่งขึ้น

100%ไม่มีใครเชื่อรูปนี้หรอกครับท่าน

.........................................................................

      ในรูปเขียนว่าNude and Rapeทั้งเปลือยกายและข่มขืน ที่นี่เป็นประเทศอินโดนีเซียนะครับ

ถ้าเป็นแอฟริกาก็ว่าไปอย่าง เผ่าดยัคเค้าไม่ข่มขืนหรอก

...............................................................................

รูปนี้ไม่เห็นศีรษะ จึงไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นผู้หญิงในภาพ

......................................................................

    

เหมือนเคยมีคนวิเคราะห์รูปนี้ว่า ถ้าต้องการให้เห็นว่าศีรษะนี้คือผู้หญิงในรูป

แล้งทำไมจะต้องเซนเซอร์ด้วย (ก็เพราะมันคนละหัวยังไงล่ะ ถึงต้องเซนเซอร์)

............................................................................................

นี่ก็บ้าเข้าไปใหญ่บอกว่าฝ่ายหญิงโดนข่มขืนนับร้อย

........................................................................

กาฆ่าล้างครอบครัวชาวมาดูเรสี โครงสร้างหน้าตา สีผิว มันคนเอเชียอาคเนย์ที่ออกไปทางตอนล่างชัดๆ

................................................................................

ชาวมาดูเรสีจำนวนเกินกว่า50,000คน ตัดสินใจทิ้งบ้านและกิจการของตัวเองหลบหนีไปยังเมือง กัวลาคาปาส เป็นที่มั่นสุดท้าย หลังจากที่ถูกชาวดยัคที่อยู่ในเมืองและพวกที่มาสมทบจากป่าไล่ล่า โดยที่ทางการอิโดนีเซียเองไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก เหตุผลก็คงเพราะ ครั้งหนึ่ง ชาวดยัคลากตัวมาดูเรสีลงจากรถบรรทุกที่ใช้ในการคนย้ายคนชองรัฐบาล ลงมาฟันคนต่อหน้าเจ้าหน้าที่จนขวัญหนีดีฝ่อ วิ่งหนีกันอุดตลุด ปล่อยให้ชาวมาดูเรสี ที่กำลังเตรียมอพยพต้องตายไป118ศพ
หลังเหตุการณ์สังหารโหดถึงปีค.ศ.2001 ไม่มีชาวมาดูเรสีบนเกาะบอร์เนียวอีกเลย จนกระทั่งปัจจุบัน

คราวนี้หลายคนคงรู้ที่มาของภาพต่างๆเหล่านี้แล้วนะครับ สำหรับภาพที่มีการใส่ร้ายให้เกิดความเกลียดชังของคนสองเชื้อชาติ เชื่อว่าผู้ทำไม่ได้มีเจตนาดีแน่และมันอาจส่งผลกระทบขนาดใหญ่ได้(ถ้ามีคนเชื่อนะ)การเสพข่าวก็ควรต้องใช้วิจารณะญาณให้ดี เพราะข่าวแบบนี้มันเป็นเสมือนไวรัส ถ้าภูมิคุ้มกันของผู้เสพไม่ดี มันอาจจะนำมาซึ่งความแตกแยกได้

(สกู๊ปนี้เป็นอีกสกู๊ปหนึ่งที่ผมตั้งใจเรียบเรียง เขียนขึ้นมาเอง เพื่อทุกๆท่าน อยากให้ทุกท่านได้ลองอ่านกัน ขอบคุณครับ)

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...