https://pepperrr.net/th/articles/11127

หลังจากที่มีการแถลงข่าวออกมาอย่างเป็นทางการว่าองค์การนาซ่าได้ค้นพบกับระบบสุริยะใหม่พร้อมดาวเคราะห์ขนาดใกล้เคียงดาวโลกมากถึง 7 ดวง และสามในเจ็ดนั้นก็มีคุณสมบัติมากพอที่จะอาศัยอยู่ได้เนื่องจากอยู่ในระยะดาวฤกษ์ที่เหมาะสมและอาจมีน้ำประกอบอยู่ (ซึ่ง ถ้ามีน้ำก็หมายถึงมีโอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตนั่นแหละครับ)

หลังจากที่เรื่องนี้แพร่กระจายออกมาบนโลกไซเบอร์ ชาวเน็ตก็ถกเถียงพูดคุยกันไปต่าง ๆ นา ๆ ทั้งในเรื่องของสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่อาจจะมีอยู่จริง เราไม่ได้อยู่เดียวดาย ไปจนถึงเรื่องโลกคู่ขนานที่อาจจะมีตัวเราซึ่งแตกต่างกันอย่างสุดขั้วอาศัยอยู่เลยทีเดียว แต่กว่าที่เราจะได้ไปพิสูจน์เจ้าดาวเหล่านี้กันจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับเพราะอยู่ห่างไปไกลถึง 40 ปีแสง (ซึ่งใกล้ที่สุดแล้วนับตั้งแต่เคยค้นพบมา แต่ก็ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งช่วงชีวิตในการเดินทางไปถึงได้) เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อความเป็นจริงยังไม่สามารถไปได้ เราก็มาอยู่ในจินตนาการกันต่อดีกว่าครับ นีคือลิสต์ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตบนดาวดวงอื่นที่น่าสนใจและเหมาะกับการหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งในบรรยากาศการค้นพบครั้งนี้ครับ

1. The Passenger

เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เล่าถึงการใช้ชีวิตบนดาวดวงอื่นโดยตรง แต่เป้าหมายของการเดินทางในเรื่องก็ใช่แหละครับ เป็นการเดินทางของ Jim Preston (Chris Patt จาก Jurassic World) และ Aurora (Jennifer Lawrence จาก The Hunger Games) ที่จับพลัดจับผลูต้องตื่นมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน (เพราะพี่พระเอกของเรื่องดันเหงาเลยไปเปิดตู้นางเอกด้วย) บนยานลำโตที่กำลังเดินทางไปยังดาวดวงใหม่ซึ่งจะยังไม่ถึงในช่วงอายุของพวกเขา และก็ไม่สามารถกลับไปนอนในแคปซูลอีกครั้งได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีโทนไปในทางหนังรักไซไฟดราม่ามากกว่า ใครหวังจะได้เห็นอะไรบู๊ ๆ มีน้อย แต่แค่ไปดูนางเอกก็คุ้มละครับ!

2. The Martian

อันนี้จะว่าเป็นการใช้ชีวิตบนดาวดวงอื่นมันก็ใช่ แต่มันไม่ได้ไปเพราะเต็มใจนี่สิ! เรื่องมันเกิดจากการที่มีพายุเกิดขึ้นบนดาวอังคารระหว่างที่ทีมสำรวจกำลังทำงานกัน และก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นจนทำให้ Mark Watney พระเอกของเรื่อง (นำแสดงโดย Matt Damon) ไม่สามารถกลับขึ้นยานได้ทันและจำต้องใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร หาทางรอด หาทางติดต่อกลับโลก และหาทางกลับบ้านให้ได้ สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันซึ่งขายดีมากและได้เสียงตอบรับดีมากเรื่องความสมเหตุสมผลของเทคโนโลยีในเรื่อง ไม่ควรพลาดครับ!

3. Avatar

ภาพยนตร์ไซไฟทุนสร้างมหาศาลเรื่องนี้เล่าเรื่องของ Jake Sully (นำแสดงโดย Sam Worthington) นาวิกฯ พิการที่จับพลัดจับผลูได้มาใช้ร่างของชาวนาวีที่นำมาใช้สำหรับพี่ชายของเขาแต่เสียชีวิตไปเสียก่อน Avatar ถือว่านำเสนอความ ‘ต่างดาว’ ออกมาได้อย่างสวยงามและอลังการมากเลยทีเดียวครับ เรื่องนี้เล่าถึงการไปเยือนดินแดนแห่งใหม่และรุกรานเผ่าของสิ่งมีชีวิตที่อยู่มาก่อนหน้าเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง มองไปก็คล้ายกับเรื่องราวการบุกอเมริกาสมัยที่อินเดียนแดงยังเป็นใหญ่สมัยก่อนยังไงยังงั้น อาจจะเป็นการเล่าสะท้อนถึงโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้ายก็เป็นได้ครับ

4. Prometheus

Prometheus อาจจะไม่ได้พูดถึงการลงหลักปักฐานบนและใช้ชีวิตบนดาวดวงอื่นแบบตั้งรกราก แต่ก็ถือว่าหนังได้พาเราทัวร์บนโลกดวงใหม่ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ อาจจะไม่ได้มีความ Realistic ซักเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าสร้างโลกอันไกลโพ้นอีกด้านของ “ผู้สร้าง” ออกมาได้น่าสนใจมากทีเดียว แถมตอนจบของเรื่องนี้ยังปูทางไปสู่ภาพยนตร์ดังที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง “_____” อีกด้วย (ไม่บอกหรอก ไปดูกันเอง!)

5. John Carter

อันนี้ออกจะดูเป็นต่างดาวที่ดูเหนือจินตนาการของเราไปไกลโขอยู่ แต่ John Carter (นำแสดงโดย Taylor Kitsch) เล่าเรื่องของอดีตนายทหารผู้เบื่อหน่ายสงครามขึ้นหนึ่งที่จู่ ๆ ก็ดันไปตื่นอยู่บนดาวอังคารโดยหาคำตอบไม่ได้ว่าไปไงมาไง แถมยังไปโผล่อยู่ในช่วงที่เผ่าบนนั้นเค้ากำลังทำสงครามกันอยู่อีกด้วย ถือว่าก็ครบเครื่องตามสไตล์หนังแฟนตาซีครับ พระเอกนักรบ สงคราม เจ้าหญิง และที่สำคัญเจ้า Woola สัตว์เลี้ยงคู่กายพระเอกนี่โคตรน่ารักเลย!

6. Interstellar

ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับ ‘ดาวดวงอื่น’ แล้วไม่มีเรื่องนี้ก็คงจะเป็นอะไรที่ผิดมากทีเดียวครับ เพราะถือว่าเป็นเรื่องเด่นที่ทำให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจเรื่องของดาราศาสตร์กันอยู่พักใหญ่เลยทีเดียวในช่วงที่ภาพยนตร์เข้าฉาย อาจจะต้องใช้ความรู้พื้นฐานทีจริงจังกันระดับหนึ่งในการชมเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเข้าใจยากจนเกินไปครับ แนะนำ!

7. Elysium

เรื่องสุดท้ายที่จะแนะนำกันอาจจะดูแปลกไม่เข้าพวกกับเรื่องอื่นไปซักหน่อยครับ เพราะเราไม่ได้ไปอาศัยอยู่ไกลถึงดาวเคราะห์น้อยที่ไหน แต่เป็นดาวเทียมที่เหล่าชนชั้นคนรวยในเรื่องสร้างขึ้นมาอยู่กันเองชื่อว่า “Elysium” แยกกันกับคนชั้นล่างที่หาทางดิ้นรนอยู่บนดาวโลกดวงเดิมกันอย่างแร้นแค้น หนังเป็นแนวแอ็คชั่นดราม่าไซไฟชูประเด็นเรื่องการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางชนชั้นและต่อสู้กับอำนาจด้านบน ซึ่งก็ดูเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองเราตอนนี้ดีเหมือนกันนะครับ!

ที่มา แหล่ง: https://www.youtube.com