โลกอาจเปลี่ยนโฉม ถ้าคนเหล่านี้ไม่ป่วยเสียก่อน

 

เรามักจะคิดกันว่าประวัติศาสตร์เป็นการตัดสินใจที่สำคัญของคนสำคัญ แต่เป็นอย่างนั้นจริงทุกครั้งหรือ? เราอาจลืมความจริงของ "ประวัติศาสตร์มนุษย์" ไปอย่างหนึ่ง มนุษย์ป่วยได้ และมนุษย์ก็เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ ดังนั้นอาจมีหลายครั้งที่ความป่วยไข้ของคนเราทำให้ประวัติศาสตร์พลิกผัน

☼ นวนิยายดัง "จากไปกับสายลม (Gone with the wind) เขียนขึ้นเพราะข้อเท้าอักเสบ

กอน วิธ เดอะ วินด์ เป็นนิยายที่ยอมรับกันว่าเป็นหนึ่งในบรรดาหนังสือและภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ตลอดกาล เป็นนิยายที่ถือกันว่าเป็นคลาสสิกอเมริกัน แถมนักประวัติศาสตร์ยังเชื่อว่ามันเปลี่ยนมุมมองประวัติศาสตร์ระหว่างยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ อีกต่างหาก แต่หนังสือเล่มนี้อาจไม่เกิดขึ้นถ้า "มาร์กาเร็ต มิตเชลส์" ไม่ป่วยด้วยโรคข้อเท้าอักเสบ อาการป่วยนั้นมากเสียจนเดินไปไหนมาไหนไม่สะดวก ต้องนั่งอยู่ที่ อ่าน และอ่านหนังสือทั้งวัน แต่มาร์กาเร็ตอ่านเล่มนั้นเล่มนี้แล้วก็ไม่พอใจเสียที สามีของเธอต้องเที่ยวไปหาหนังสือจากห้องสมุดตามที่ภรรยาร้องขอมาให้ที่บ้านทุกวัน

ในที่สุดเขาหัวเสียกับการเที่ยวหาหนังสือมาให้ เขาแก้ปัญหาด้วยการเอาเครื่องพิมพ์ดีดมาให้แทน ต้องการให้เธอหาความบันเทิงให้ตัวเองด้วยการเขียนหนังสือ เขาพูดติดล้อเล่นว่า "เพ็กกี้ ถ้าคุณอยากได้หนังสืออีกสักเล่ม ทำไมคุณไม่เขียนของคุณเอง" และแล้วมันก็กลายเป็นต้นฉบับ "กอน วิธ เดอะ วินด์ จากไปกับสายลม"

มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ไม่ได้อยากเขียนหนังสือ เวลามีเพื่อนมาเยี่ยม เธอต้องซ่อนต้นฉบับไว้ใต้หมอนบ้าง ใต้พรมบ้าง จนปี ค.ศ. 1929 ข้อเท้าของเธอรักษาจนหายดีและหนังสือพิมพ์เสร็จ แต่เธอไม่มีความตั้งใจจะพิมพ์เรื่องของเธอออกมาเป็นเล่มแต่อย่างใด ความจริง มันต้องใช้เวลาอีกถึง 10 ปี จึงมีการพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เพื่อน ๆ ไม่มีใครเชื่อว่าเธอเขียนหนังสือ เวลาเอ่ยถึงเรื่องนี้ทีไรเพื่อนก็หัวเราะเยาะทุกที "นึกสิ ใครจะโง่เชื่อว่าเพ็กกี้เขียนหนังสือ"

 

นิกสันกับเรื่องของประตู

ในระหว่างการอภิปรายทางโทรทัศน์ก่อนการเลือกตั้งครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระหว่างริชาร์ด นิกสัน และจอห์น เอฟ เคนเนดี้ สภาพเหงื่อไหลโทรมของนิกสันทำให้เขาดูไม่น่าเชื่อถือ หรือจะว่าภาพลักษณ์ไม่ดีพอก็ได้ แต่เหตุของนิกสันที่ทำให้เขาดูซูบซีดก็ฟังแล้วทรุดเหมือนกัน ก่อนการอภิปรายนิกสันก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เขาต้องนอนนิ่งอยู่ที่นั่นถึง 12 วัน หลังจากเอาเข่ากระแทกประตูรถอย่างแรง ซ้ำด้วยการติดเชื้อซึ่งทำให้ต้องใช้เวลานับอาทิตย์กว่าอาการจะดีขึ้น

นิกสันยังดูหมดแรงเมื่อขึ้นเวที เขาน้ำหนักลดและดูผอมแห้ง ปรอทวัดไข้วิ่งถึงขีด 102 ในระหว่างการอภิปราย นิกสันเหงื่อแตกในช่วงเวลาสำคัญแก่ภาพลักษณ์ทางการเมือง เหงื่อเม็ดเป้งนั้นทำให้โอกาสของนิกสันที่จะเป็นประธานาธิบดีหมดไป สรุปว่าแค่เข่าเจ็บอาจทำให้หมดโอกาสทองทีเดียว

 

คอหอยที่ทำให้เกิดสงครามโลก

ภายใต้การนำของพระเจ้าเฟรเดอริคที่ 3 การเมืองของจักรวรรดิเยอรมันที่เต็มไปด้วยความผันผวนก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น รัฐธรรมนูญที่พระเจ้าเฟรเดอริคชื่นชอบก็ได้รับการปฏิรูป เยอรมันมีรัฐสภาที่แข็งแกร่งเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และไม่เต็มใจที่จะใช้กำลังทหาร

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่กล่าวมากลับสิ้นสุดลงหลังจากเวลาแค่ 99 วัน เป็นเรื่องโชคร้ายของพระเจ้าเฟรเดอริคและคนอื่นที่เหลือ เมื่อพระเจ้าเฟรเดอริคทรงสวรรคตจากการักษามะเร็งกล่องเสียง แพทย์ของพระองค์วินิจฉัยโรคผิดถึงสามครั้ง แต่ละครั้งพวกเขาเชื่อว่าก้อนเนื้อนั้นไม่ใช่เนื้อร้าย หากแพทย์ของพระเจ้าเฟรเดอริครักษาได้อย่างถูกต้อง พระองค์ก็จะยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่ได้

☼ เส้นทางไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 อาจแตกต่างออกไป หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย เมื่อพระเจ้าเฟรเดอริคที่ 3 สวรรคต พระเจ้าวิลเฮล์มสืบทอดพระราชบัลลังก์ พระองค์ใช้นโยบายผลักดันทางการทูตในเชิงรุก และการขยายอาณาเขตก็ผ่านการเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่กองทัพเรือ พระองค์ยังทำตัวเป็นปรปักษ์แก่สหราชอาณาจักร โดยสนับสนุนพวกหัวกบฎให้ก่อความยุ่งเหยิงทั่วแผ่นดินและยุให้เรียกกษัตริย์ของพวกเขาว่า "ซาตาน"

สถานการณ์ตึงเครียดในยุโรปอาจได้รับการแก้ไข ถ้าพระเจ้าเฟรเดอริคมีพระชนมายุนานกว่านี้สักเล็กน้อย ฝรั่งเศสและเยอรมันจะได้แก้ไขความสัมพันธ์ พระเจ้าเฟรเดอริคที่ 3 เป็นเยอรมันผู้หนึ่งที่ชาวฝรั่งเศสนับถือ หากเยอรมันอยู่ในการปกครองระบอบกษัตริย์ใต้ธรรมนูญ รัฐสภาก็จะยับยั้งวิลเฮล์มและแผนการครอบครองนั้นได้....(จบ)...✎

ขอบคุณที่มา: Hathairat Traithip

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1290020187718020&set=p.1290020187718020&type=3&theater

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...