8 ฆาตกรสุดโหดแห่งสยามเมืองยิ้ม

อันดับที่ 8 นางกาญจนา เจียมเจริญ


เด็กหญิงประภัสสร เจียมเจริญ อายุ 12 ปี ถูกคนในครอบครัวคือ นางกาญจนา เจียมเจริญ ผู้เป็นแม่ที่อ้างว่าเป็นร่างทรงพระอินทร์ นางอนงค์ เจียมเจริญ มีศักดิ์เป็นป้า อ้างเป็นร่างทรงพระอาทิตย์ นางจรินทร์ เจียมเจริญ น้าสาว และนางบัว เจียมเจริญ ผู้เป็นยาย ร่วมกันฆ่า โดยใช้มีดปาดคอตายอย่างสยดสยองภายในบ้าน โดยนางกาญจนาอ้างว่า สาเหตุที่ฆ่าลูกสาว เพราะต้องการปลดปล่อยวิญญาณไปให้พระอินทร์ จากนั้นตำรวจได้ส่งตัวทั้งหมดไปที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์ เนื่องจากพบว่าทั้งหมดมีอาการทางประสาท ถือได้ว่าเป็นคดีศึกษาคดีหนึ่งในไทยก็ว่าได้

อันดับที่ 7 ไอ้หนุ่ย


พฤติกรรมดิบครั้งแรก วันที่ 18 มกราคม 2551 ที่งานวัด หรืองานบุญปู่เปือย นายหนุ่ยไปเที่ยวงานเจอเด็กอายุ 7 ขวบเดินเที่ยวงานอยู่คนเดียวจึงเดินเข้าไปถามว่าพ่อแม่อยู่ไหน เด็กตอบว่าพ่อแม่ทำงานอยู่ ไอ้หนุ่ยได้ฟังอย่างนั้นจึงหลอกล่อว่าจะพาไปซื้อขนม เมื่อสบโอกาสก็พาเด็กไปที่เปลี่ยวริมห้วยแล้วจึงลงมือบีบคอให้สลบก่อนเพื่อไม่ให้ส่งเสียง ลงมือถอดเสื้อผ้าออกหมด ทำอนาจาร แต่ไม่สำเร็จ แล้วจึงเอาตัวเด็กไปวางไว้ที่กอไผ่ตรงป่ารกชัฏตลอดคืน ช่วงเช้ามีคนมาพบเข้า จึงนำเด็กส่งโรงพยาบาล ซึ่งเด็กจำหน้าได้ และถูกจับตัวเข้าคุก ต่อมาเมื่อไอ้หนุ่ยพ้นโทษก็ก่อเหตุเรื่อยมา

ที่งานกาชาดดอกฝ้าย ไอ้หนุ่ยไปเที่ยวงาน หลอกลวงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งว่าจะพาไปซื้อของเล่น ชวนเดินออกมาจากนอกงาน จนถึงร้านขายรถหกล้อมือสองอยู่ข้างกับแท้งค์น้ำประปา ได้ลงมือบีบคอเด็กและกระทำชำเรา จากนั้นหลบหนีไป คดีนี้ตำรรวจออกตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุตามคำรับสารภาพของไอ้หนุ่ย พบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ของเด็ก ซึ่งเชื่่อว่าเป็นของเด็กผู้หญิงเหยื่อของไอ้หนุ่ย

อันดับที่ 6 สมคิดเดอะริปเปอร์


สมคิดเน้นฆ่าหมอนวดและนักร้องคาเฟ่หลายราย พฤติกรรมของเขากับพฤติกรรมของแจ๊คเดอะริปเปอร์ อาชญากรเขย่าขวัญของโลกที่โด่งดังนั้นคล้ายคลึงกัน นายสมคิด พุ่มพวงได้ฉายาเดอะริปเปอร์ของเมืองไทย เมื่อก่อคดีฆาตกรรมหมอนวดและนักร้องคาเฟ่ห้าศพเป็นอย่างน้อยภายในเวลาครึ่งปี กลายเป็นข่าวครึกโครมขึ้นมาทันที หลังจากถูกจับกุม เขายอมเปิดปากสารภาพว่าลงมือสังหารเหยื่อทั้งหมดจริง โดยอ้างว่าเพราะบันดาลโทสะว่าเหยื่อขอฆ่าตัวเพิ่มหลังจากที่ร่วมหลับนอนด้วยกัน แต่ตำรวจไม่เชื่อคำให้การ เพราะจากการสอบพยานหลักฐานพบว่านายสมคิดวางแผนเป็นอย่างดี จงใจฆ่าเหยื่อเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์

อันดับที่ 5 นายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์


เรื่องเกิดขึ้นที่หัวหินเมื่อปี 2536 เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากเมื่อพบศพศยามลครั้งแรก พระภิกษุที่เดินบิณฑบาตเห็นเด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ ศพของผู้เป็นแม่ นายแพทย์บัณฑิตได้ว่าจ้างทีมสังหารมารวมตัวกันแล้วปรึกษาวางแผน โดยมีค่าว่าจ้างหนึ่งล้านบาท ทีมสังหารนั้นได้ใช้เชือกรัดคอ และมีดจ้วงแทงนางศยามล 3 แผล ต่อหน้าเด็กหญิงอิงอิงจนถึงแก่ความตาย

อันดับที่ 4 นายแพทย์อธิป สุญาณเศรษฐกร


เดือนกันยายน 2502 กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งได้สังหารนวลฉวีตามคำว่าจ้าง แล้วนำศพไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาตรงสะพานนนทบุรี วันต่อมามีคนพายเรือมาพบศพและพบร่องรอยถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ บนนิ้วของศพพบแหวนมีตัวอักษร "รามเดชะ" นำไปสู่การสอบปากคำหมออธิป สุญาณเศรษฐกร และจับกุมตัวได้ในที่สุด เรื่องนี้เป็นข่าวดังมากเพราะคนจ้างวานเป็นถึงนายแพทย์และเป็นสามีของผู้ตาย รวมถึงสะพานที่พบศพนวลฉวี ชาวบ้านก็เรียกชื่อสะพานตามชื่อนวลฉวีไปด้วย

อันดับที่ 3 เสริม สาครราษฎร์


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2541 นายเสริม สาครราษฎร์ นักศึกษาแพทย์ ปีที่ 2 วัย 22 ปี ของมหาวิทยาลัยการแพทย์กรุงเทพมหานคร
ก่อเหตุฆ่าหั่นศพนางสาวเจนจิราแฟนสาววัย 23 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 คณะแพทยศาสตร์ มหาลัยมหิดล นายเสริมให้การว่าใช้ปืนสังหารที่ชมับนางเจนจิรา เนื่องจากตกลงกันไม่ได้เรื่องที่มีชายอื่นมาพัวพัน หลังจากนั้นได้ใช้มีดผ่าตัดเฉือนศพเป็นชิ้นๆ บางส่วนทิ้งลงชักโครก และบางส่วนนำไปทิ้งี่อื่น จนมีผู้พบชิ้นส่วนมนุษย์เข้า นำไปสู่การพิสูจน์ดีเอ็นเอก็พบว่าตรงกันกับดีเอ็นเอของนางสาวเจนจิรา

อันดับที่ 2 นายซีอุย แซ่อึ้ง


จากเรื่องจริงของฆาตกรโหดที่ฆ่าและชำเหละชิ้นส่วนเด็กนำมาต้มกินเพราะเขาเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ในช่วงปี พ.ศ.2497 - 2501 โดยมีเด็กอย่างน้อยหกคนที่ถูกนายซีอุยสังหาร ซีอุยเป็นชาวจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทย ด้วยการนั่งเรือมาจากเมืองจีนและขึ้นฝั่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อจริงๆ ว่านายหลีอุย แซ่อึ้ง แต่คนไทยเรียกเพี้ยนไปว่า ซีอุย นายซีอุยทำงานรับจ้าง ทำสวนผักและรับจ้างทั่วไป มีนิสัยชอบเกาหัวและหาวอยู่เสมอๆ บุคลิคชอบเก็บตัว

อันดับที่ 1 บุญเพ็ง หีบเหล็ก


นายบุญเพ็งเป็นฆาตกรหั่นศพต่อเนื่องรายแรกของไทย และเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการบั่นเศียร แต่ในกรณีของนายบุญเพ็งนั้นเป็นประวัติศาสตร์ของสยามประเทศในสมัยนั้น ฉายาบุญเพ็ง หีบเหล็กมาจากการที่เขาได้ฆาตกรรมผู้หญิง หั่นศพยัดใส่หีบเหล็กแล้วโยนลงน้ำ เขาได้ทำการสังหารเหยื่อไปทั้งหมด 7 ราย เหยื่อของเขาล้วนแต่ตกหลุมสวาทของเขา เนื่องจากนายบุญเพ็งเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ดูสุภาพอ่อนโยน และอีกอย่างก็คือเขายังเรียนวิชาไสยศาสตร์มนต์ดำอีกด้วย

9 ธ.ค. 59 เวลา 09:52 2,977 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...