10 อารยธรรมโบราณที่เคยมีอยู่จริง แต่กลับสูญหายไปอย่างลึกลับ

ในช่วงหลายหมื่นหลายพันปีที่ผ่านมานั้นมีอารยธรรมมากมายบนโลก รวมถึงกลุ่มคนจากชนเผ่าต่างๆ แต่ว่าคนเหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมและโลก แต่ก็ยังมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่สูญหายไปอย่างลึกลับ แม้ว่าเราจะรู้ว่าพวกเขามีตัวตนอยูุ่จริง แต่กลับหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมอารยธรรมเหล่านี้ถึงได้สูญหายไปอย่างลึกลับ

 

1. อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

เคยเป็นอารยธรรมที่อาศัยอยู่บริเวณปากีสถานและทางตะวันตกของอินเดียในปัจจุบันเมื่อ 7,000 ปีก่อนคริสตกาล พวกเขามีภาษาเป็นของตัวเองแต่กลับยังเป็นปริศนาในปัจจุบัน

โดยนักวิจัยเชื่อว่าสาเหตุที่พวกเขาหายตัวไปน่าจะมาจากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงทำให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจากเมืองของตัวเอง และอรกเหตุผลหนึ่งน่าจะเป็นเพราะถูกพวกอารยันบุกเมื่อ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล แต่มันก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น

 

 

2. Anasazi

เป็นอารยธรรมที่เคยอาศัยอยู่ใน Four Corners ของสหรัฐอเมริกา ชนเผ่านี้มักจะล่าสัตว์และอาศัยอยู่ในบ้านที่มีลักษณะเหมือนหลุม หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาจนกลายเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่ปลูกทั้งข้าวโพดและถั่ว ทั้งพวกเขายังเป็นที่รู้จักกันดีในการสานตะกร้าและเครื่องปั้นดินเผาอีกด้วย 

สาเหตุที่หายไปอย่างลึกลับนั้นน่าจะมาจากการเพิ่มขึ้นของประชากรในชนเผ่าทำให้คนในชนเผ่าโยกย้ายไป Rio Grande Valley

 

 

3. Minoans

ตามตำนานของกรีก Minoans เป็นบ้านเกิดของ Cretan Bull และ Minotaur ลูกชายของเขา ทั้งยังถูกอ้างอีกด้วยว่ามันเป็นอารยธรรมแรกในยุโรป เป็นชนเผ่าที่มีความเป็นเลิศทางศิลปะ ทั้งยังมีพัฒนาภาษามาจากสัญลักษณ์ภาพ โดยเชื่อกันว่าสาเหตุที่อารยธรรมนี้สูญหายไปเป็นเพราะการระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะ

 

 

4. ชนเผ่า Clovis

เคยอาศัยอยู่ในภาคกลางของทวีปอเมริกาเหนือเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล เป็นกลุ่มของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการล่าสัตว์ ทั้งพวกเขายังออกแบบหัวลูกศรของพวกเขาเองที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่า เชื่อกันว่าพวกเขาอพยพมาจากไซบีเรียและอลาสก้าในช่วงยุคน้ำแข็ง

สาเหตุที่ชนเผ่านี้สูญหายไปอย่างลึกลับนั้นน่าจะมาจากการสูญพันธุ์ของช้างแมมมอธเพราะการล่าสัตว์ของพวกเขาทำให้แหล่งอาหารหมดลง และอาจเป็นไปได้ว่าถูกดาวหางทำลายล้าง

 

 

5. วัฒนธรรม Cucuteni-Trypillian

เป็นอารยธรรมนี้เป็นผู้ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในการตั้งถิ่นฐานทั้งหมดของยุโรป เขาเผาหมู่บ้านของตัวเองและสร้างมันขึ้นใหม่ ผู้หญิงเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีหน้าที่ในการทำเกษตร รวมถึงทำเสื้อผ้า

สาเหตุที่ชนเผ่านี้สูญหายน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรปเลยก็ว่าได้ 

 

 

6. Olmec

ย้อนกลับไปเมื่อ 1,400 ปีก่อนคริสตกาลทางภาคใต้ของเม็กซิโก ชาว Olmec ถือว่าเป็นช่างฝีมือต้นแบบและแต่ละหมู่บ้านแบ่งเป็นที่อยู่อาศัยที่มีความซับซ้อนและมีการจัดตั้งอนุเสาวรีย์หิน พวกเขามักจะค้าขายกันเพื่อความอยู่รอด สาเหตุที่สูญหายไปนั้นน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมเชิงรุกหรืออาจเป็นเพราะการระเบิดของภูเขาไฟ

 

 

7. อาณาจักรเขมร

ตั้งรกรากอยู่ในประเทศกัมพูชาเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ทรงพลังมากที่สุดในเอเชีย พวกเขาสร้างเมืองหลวงในสมัยโบราณของกัมพูชาโดยรับอารยธรรมมาจาก 3 ศาสนาด้วยกันทั้งพราห์ม ฮินดู และพุทธนิกายเถรวาท คาดว่าอำนาจการปกครองของกษัตริย์จางลงจนนำไปสู่การสูญหาย

 

 

8. Mycenaeans

เป็นกลุ่มนักรบที่บุกเข้าไปในหลายๆ เมืองสำคัญของกรีก ทั้ง Mycenae, Tiryns, Pylos, Athens, Thebes, Orchomenus, Iolkos, และ Knossos ทั้งยังมีารสร้างเรือที่แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย โดยคาดว่าการจลาจลระหว่างชนชั้นชาวนากับชนชั้นปกครองนำไปสู่การล่มสลายของอารยธรรม ทั้งยังน่าจะเป็นเพราะการบุกรุกทางภาคเหนืออีกด้วย

 

 

9. จักวรรดิ Aksumite

ราชินีแห่งเชบาคิดว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ Aksumite ซึ่งมีการส่งออกงาช้าง ทองคำ และทรัพยากรทางเกษตร เป็นอารยธรรมที่มีความร่ำรวยอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งยังเป็นอารยธรรมแรกในแอฟริกาที่มีเหรียญเป็นของตัวเอง ทั้งยังมีเครื่องหมายบนหลุมฝังศพอีกด้วย

โดยเชื่อว่าในขณะที่แบ่งแยกการค้าเป็นช่วงเดียวกับที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงนำไปสู่การสิ้นสุดของอารยธรรม แต่ตำนานท้องถิ่นเล่าว่าราชินี Bani al-Hamwiyah ได้ทำการบุกและยึกครองจักรวรรดิ Aksumite

 

 

10. Nabateans

เป็นชนเผ่าที่ทำการก่อสร้างเมือง Petra และแกะสลักหน้าผาในจอร์แดน แถมยังเป็นอารยธรรมที่สำคัญในเส้นทางการค้าผ้าไหม เครื่องเทศ โลหะ อัญมณีมีค่า และยารักษาโรคอีกด้วย แต่เมื่อเส้นทางการค้าย้ายไปทางเหนือก็ทำให้อารยธรรมล่มสลาย

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...