Mein Kampf: หนังสืออันตรายระดับโลก ผลงานเขียนของจอมเผด็จการ "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์"

http://www.meekhao.com/news/mein-kampf

Mein Kampf: หนังสืออันตรายระดับโลก ผลงานเขียนของจอมเผด็จการ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์”

หนังสือที่แต่งโดยนักการเมืองและผู้นำที่โหดเหี้ยมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อย่างอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กำลังจะถูกตีพิมพ์และเผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนทั่วทั้งโลก

ไมน์คัมพฟ์ (Mein Kampf) เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุดมการณ์ทางการเมืองและอัตชีวประวัติของ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ผู้นำคนสำคัญของพรรคนาซี ซึ่งกำลังจะถูกตีพิมพ์อย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดข้อโต้แย้งมากมายว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสมที่จะตีพิมพ์ให้ผู้คนมากมายได้เข้าถึงเนื้อหาหรือไม่

แม้ว่าไมน์คัมพฟ์จะถือได้ว่าเป็นหนังสือที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญและประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพรรคนาซีและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวได้อย่างรอบด้านมากขึ้น แต่ถ้าหากหนังสือที่อันตรายอย่างไมน์คัมพฟ์ตกไปอยู่ในมือของผู้ที่คิดไม่ดี ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือในการปลุกปั่น ปลุกระดม จนอาจกลายเป็นการต่อสู้ของผู้ที่คิดเห็นต่างด้านอุดมการณ์

หนังสือถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ และตีพิมพ์ออกมาหลายรุ่น

หนังสือเล่มนี้ถูกแบนไม่ให้ตีพิมพ์ซ้ำเพื่อจำหน่ายและเผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็นเวลานานกว่า 70 ปี จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางสถาบันประวัติศาสตร์ร่วมสมัยจึงได้ทำการตีพิมพ์หนังสือไมน์คัมพฟ์ประกอบอรรถาธิบายบันทึกหมายเหตุเพื่อการศึกษา เพื่อจะได้อธิบายสาเหตุและแรงจูงใจที่ฮิตเลอร์เขียนเช่นนั้น และอธิบายข้อเท็จจริงที่ถูกต้องไม่ให้ผู้อ่านถูกชักจูงความคิด เป็นเหมือนวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับผู้อ่าน โดยหนังสือถูกขายหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากวางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Amazon ของเยอรมนี

ไมน์คัมพฟ์ ฉบับประกอบอรรถาธิบาย ปี 2016

โดยกลุ่มนักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันให้เหตุผลว่าพวกเขาจำเป็นต้องเร่งทำการเผยแพร่หนังสือไมน์คัมพฟ์ที่มีคำอธิบายประกอบการศึกษา เพื่อไม่ให้พวกกลุ่มนีโอนาซี ลัทธิที่เคลื่อนไหวเพื่อฟื้นคืนลัทธินาซี ทำการเผยแพร่หนังสือไมน์คัมพฟ์ในเวอร์ชันของตนเองซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้อ่าน

การตีพิมพ์หนังสืออีกครั้งก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงและมีความวิตกกังวลกันเป็นอย่างมาก

ไมน์คัมพฟ์คือเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

ฮิตเลอร์คือผู้ลงมือเขียน “ไมน์คัมพฟ์” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “การต่อสู้ของข้าพเจ้า” ด้วยตัวเองในปี 1923 ขณะที่เขาถูกจองจำอยู่ในคุกบาวาเรีย

นอกจากหนังสือเล่มนี้จะช่วยเผยแพร่อุดมการณ์แล้ว รายได้จากค่าลิขสิทธิ์การขายหนังสือไมน์คัมพฟ์ทั่วโลกกว่า 10 ล้านเล่มได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฮิตเลอร์และพรรคนาซีมีกำลังทรัพย์อย่างล้นหลามซึ่งช่วยนำไปสู่การขึ้นครองอำนาจเบ็ดเสร็จในเวลาต่อมา

ฮิตเลอร์ได้ค่าลิขสิทธิ์จากหนังสือเล่มนี้มากมายจนทำให้เขามีชีวิตที่หรูหรา เขามีรถยนต์หรู และบ้านพักตากอากาศมากมาย

ไมน์คัมพฟ์มีเนื้อหาส่วนหนึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของฮิตเลอร์ และอีกส่วนหนึ่งเป็นการแสดงออกถึงอุดมการณ์ความเชื่อในด้านการต่อต้านคอมมิวนิสต์ เชื้อสายที่บริสุทธิ์ของชาวอารยัน และความจำเป็นในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เนื้อหาบางส่วนกล่าวถึงชาวยิวว่าพวกเขาเป็นดั่งปรสิต เป็นเชื้อแบคทีเรีย เป็นเผ่าพันธุ์ที่คอยสูบเลือดเนื้อและกอบโกยผลประโยชน์จากชาวเยอรมัน

ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าหนังสือเรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ความเกลียดชังที่น่าสะพรึงกลัว และความบ้าคลั่งอันแรงกล้าของฮิตเลอร์ ขณะที่นักวิชาการหลายท่านกลับเห็นพ้องกันว่าฮิตเลอร์นั้นใช้สำนวนการเขียนที่น่าเบื่อและไร้ความคิด มันไม่ใช่หนังสือที่น่าอ่านเลย ดังนั้นฉบับภาษาอังกฤษที่ตีพิมพ์ใหม่โดยนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ Donald Cameron Watt นั้นได้ผ่านการเรียบเรียงเนื้อหาของไมน์คัมพฟ์เสียใหม่ให้น่าสนใจมากขึ้น เขาได้เขียนเกริ่นนำไว้ว่าต้นฉบับจริงๆ ที่ฮิตเลอร์เขียนนั้น เยิ่นเย้อ น่าเบื่อ เพ้อเจ้อ วกไปวนมา ถือว่าเป็นหนังสือที่เขียนได้ห่วยแตกมาก

เหตุใดเราถึงไม่ควรอ่านไมน์คัมพฟ์

“หนังสือเล่มนี้อันตรายเกินกว่าจะเผยแพร่สู่สาธารณะ” แม้ว่าไมน์คัมพฟ์จะมีประโยชน์ด้านการศึกษาประวัติศาสตร์ แต่การกระทำที่ผ่านมาของฮิตเลอร์นั้นก็บ้าคลั่ง โหดเหี้ยม และอันตรายจนไม่มีใครอยากกล่าวถึง ผู้ที่ไม่เห็นด้วยบางคนกล่าวว่าไม่มีเหตุผลใดที่เราต้องเอาเรื่องราวของปีศาจมาอธิบายซ้ำอีกครั้ง และหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยแนวความคิดที่ไร้สติและไร้ซึ่งเหตุผล นักวิชาการและนักสิทธิมนุษยชนได้ออกมาวิจารณ์ว่า การตีพิมพ์หนังสือไมน์คัมพฟ์เพิ่มก็เหมือนกับการตบหน้าญาติและลูกหลานของชาวยิวที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น

เหตุใดเราถึงต้องอ่านไมน์คัมพฟ์

มีหนังสือและเอกสารมากมายในประวัติศาสตร์ที่พยายามวิเคราะห์การกระทำอันโหดเหี้ยมของฮิตเลอร์ แต่หนังสือเล่มใดจะเข้าถึงจิตใจของเขาได้ดีไปกว่าหนังสือที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ด้วยตนเอง

การซ่อนไมน์คัมพฟ์ไว้ตลอดกาลไม่ได้ช่วยให้สิ่งใดดีขึ้น บางคนกล่าวว่ามันคงจะดีกว่าถ้าหากเราสามารถนำเรื่องราวเหล่านั้นมาศึกษาอย่างให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อใช้เป็นแนวทางป้องกันหายนะประเภทเดียวกันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไมน์คัมพฟ์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดโดยชายคนหนึ่งเกี่ยวกับอุดมการณ์ ช่วงเวลา และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเขา แต่ไมน์คัมพฟ์สะท้อนให้เห็นถึงความวิกลจริตที่ถูกทำให้กลายเป็นความเชื่อของคนจำนวนมาก และยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการเมืองที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจ

ฮิตเลอร์ไม่เคยโกหกหรือปกปิดสิ่งที่เขาต้องการ เขาแสดงออกถึงแนวความคิดที่บ้าคลั่ง โหดเหี้ยม และไม่สมเหตุสมผล แต่เหตุใดผู้คนจำนวนมากถึงทำตามสิ่งที่เขาเสนอ เหตุใดเขาถึงก้าวไปสู่จุดสูงสุดของการครองอำนาจในเยอรมนี ซึ่งหนังสือเล่มนี้เองอาจจะช่วยไขคำตอบของปริศนาข้อนี้ให้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม

ที่มา http://www.theweek.co.uk/64396/mein-kampf-are-hitlers-memoirs-too-dangerous-to-be-read

30 ก.ย. 59 เวลา 03:35 2,705
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...