7 ภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่ร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติมนุษย์

อาวุธนิวเคลียร์เป็นอาวุธที่อันตรายและร้ายแรงมาก มีผู้คนมากมายได้รับผลกระทบจากการระเบิดและทดสอบนิวเคลียร์ เช่นการระเบิดปรมาณูในฮิโรชิมาและนางาซากิมีผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าตายอย่างน้อย 129,000 คน ทั้งยังมีคนอีกมากได้รับผลกระทบจากรังสี

ในประวัติศาสตร์มีการทดสอบและระเบิดนิวเคลียร์มากมายในสงคราม รวมทั้งมีการนำนิวเคลียร์มาใช้ประโยชน์อีกด้วยแต่เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นมาก็ทำให้เกิดการรั่วไหลของรังสีสุดท้ายผู้คนบริสุทธิ์ก็ได้รับรังสีจนเจ็บป่วยล้มตายในที่สุด และนี่คือ 7 ภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่ร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติมนุษย์

 

1. โศกนาฎกรรม Semipalatinsk

เป็นโครงการทดสอบนิวเคลียร์ที่ถูกปิดลงในปี 1991 และมันเป็นการทดสอบนิวเคลียร์ที่น่าอับอายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพราะมันส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนในคาซัคสถานมานานกว่า 4 ทศวรรษด้วยกัน ตั้งแต่ปี 1949 - 1989 มีประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 200,000 คนที่อาศัยอยู่ในเมือง Semipalatinsk ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมาก่อน

ประชาชนถูกบังคับให้อยู่ในเมืองและบังคับให้ออกนอกบ้านในช่วงที่มีการทดสอบนิวเคลียร์ ต่อมานักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาผลกระทบของรังสีในมนุษย์ และวันนี้ก็มีผู้คนมากมายยังได้รับผลกระทบอยู่ อากาศ น้ำ และดินมีรังสีสูงกว่าปกติถึง 10 เท่า ประชาชนส่วนใหญ่เป็นมะเร็งและตายก่อนอายุ 60 ทั้งนั้น

 

 

2. ระเบิดปรมาณูฮิโรชิมา

หลังจากเยอรมันนาซียอมจำนนก็ทำให้พันธมิตรหมดหวังกลายเป็นจุดสิ้นสุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 และด้วยความยินยอมของสหราชอาณาจักรดังนั้นสหรัฐอเมริกาจึงตัดสินใจทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิที่ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 และมีคนกว่า 90,000 - 146,000 คนเสียชีวิตภายใน 2 - 4 เดือนต่อมา ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเพราะถูกเผาไหม้และเจ็บป่วยจากรังสี ผู้ตายส่วนใหญ่เป็นพลเรือนทั้งนั้น

 

 

3. โศกนาฎกรรมนางาซากิ

เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนนหลังจากสหรัฐฯ ทำการระเบิดฮิโรชิมา สหรัฐฯก็ทำการลดระดับพลูโตเนียมลงจนกลายเป็นระเบิดที่เรียกว่า "Fat Man" และใช้มันระเบิดนางาซากิในสามวันต่อมาหลังจากระเบิดฮิโรชิมาเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1945

ความรุยแรงครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 39,000 - 80,000 ราย มีเหยื่ประมาณครึ่งหนึ่งเสียชีวิตทันทีในวันนั้น และหลังจากนั้นมีผู้ตกเป็นเหยื่อของฮิโรชิมาและนางาซากิเพราะได้รับผลกระทบจากรังสี นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่ยยังยอมรับอีกด้วยว่ามีเหยื่อกว่า 174,080 คนใน 650,000 คน ยังมีชีวิตอยู่ในเดือนมีนาคม 2016 และมีประมาณ 1% ได้รับการวินิฉัยว่ามีการเจ็บป่วยที่เกิดจากรังสี

 

 

4. Three Mile Island Accident

เป็นอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสีเพียงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ประชาชนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและเริ่มต่อต้านนิวเคลียร์ จึงมีการตั้งกฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดสำหรับอุคสาหกรรมนิวเคลียร์

 

 

5. Chernobyl 

เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1986 ในเมือง Pripyat ของยูเครน ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้อรุภาคกัมมันตรังสีแผ่กระจายออกไปขนาดใหญ่ทั่วทั้งภาคตะวันตกของสหภาพโซเวียต 

มันเป็นผลมาจากข้อบกพร่องในการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ คืนวันที่เกิดเหตุมีคนงานสองคนเสียชีวิตทีนที หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ต่อมาก็มีคนเสียชีวิตอีก 28 คนเนื่องจากพิษรังสีเฉียบพลัน และมันกลายเป็นอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ในแง่ของค่าใช้จ่ายและผู้ได้รับบาดเจ็บและะเสียชีวิต

 

 

6. Fukushima Nuclear

เป็นอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ในฟูกูชิม่า ซึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุนั้นมาจากแผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเครื่องปฏิกรณ์ที่ใช้งานอยู่ก็ปิดการทำงานลงโดยอัตโนมัติ แต่แล้วคลื่นสึนามิกลับทำลายระบบฉุกเฉิน เครื่องปฏิกรณ์เกิดเย็นและไม่สามารถระบายความร้อนได้พอเพียงทำให้เกิดการระเบิดขึ้น ถือว่าเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเชอร์โนบิล ทั้งยังมีการรั่วไหลของรังสีจำนวนมากอีกด้วย 

 

 

7. อุบัติเหตไฟไหม้ Windscale

เกิดขึ้นในปี 1957 มันเป็นสถานที่ตั้งของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และพลูโตเนียมบนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ และถือว่าเป็นอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงมากที่สุดในสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เกิดความผิดพลาดในการควบคุมทำให้เกิดไฟไหม้เป็นเวลาติดต่อกันนาน 3 วัน ทั่วสหราชอาณาจักรและยุโรปเกิดการปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์ส่งผลให้คนกว่า 200 ชีวิตที่ถูกปนเปื้อนเสียชีวิตจากมะเร็ง

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...