ชีวิตจริงยิ่งกว่าในหนัง หนุ่มซีเรียติดอยู่ในสนามบินตุรกีนานกว่า 1 ปีเต็ม แบบในหนัง The Terminal 

หลายคนอาจเคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Terminal ที่นำแสดงโดย Tom Hank เป็นเรื่องราวของชายต่างชาติที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกา แต่พอเขาลงจากเครื่องบินกำลังเข้าด่านตรวจปรากฎว่าเขาไม่สามารถเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจในประเทศเขาพอดี ส่งผลให้เขากลายเป็นคนไม่มีตัวตนและไม่มีสัญชาติในโลก เขาจึงต้องติดอยู่ที่สนามบินโดยออกจากสนามบินก็ไม่ได้ บินกลับประเทศตนเองก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน

แต่อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เท่านั้น เพราะตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องจริงแล้ว โดยในปี 2014 "Fadi Mansour" ชายหนุ่มชาวซีเรียวัย 28 ปี เขาตั้งใจจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ตุรกีจึงตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางยังตรุกี แต่พอไปถึงเขาก็เพิ่งรู้ว่า ตามกฎหมายแล้วตุรกีไม่อนุญาตให้ผู้อพยพทำงานแบบถูกกฎหมายได้

ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนใจจะเดินทางไปยังเยอรมันด้วยพาสปอร์ตปลอม แต่ระหว่างที่ไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่กลับจับได้ว่าเขาใช้พาสปอร์ตปลอมจึงทำการส่งตัวกลับมายังตุรกี

ระหว่างนั้นเขาถูกนำตัวไปยังห้องกักกันภายในสนามบินเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่บอกเขาว่า จะส่งตัวเขากลับไปยังมาเลเซีย เขาจึงบอกเจ้าหน้าที่ไปว่า เขาไปมาเลเซียไม่ได้เพราะที่นั่นไม่มีใครต้องการผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและเขาต้องการลี้ภัยที่นี่ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธและบอกเขาว่าที่ตุรกีมีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมากถึง 2 ล้านคนแล้ว และทางการไม่มีนโยบายรับผู้ลี้ภัยเพิ่มอีก

หลังจากนั้นเขาก็ติดอยู่ภายในสนามบินที่กรุงกัวลาลัมเปอร์นาน 3 วันจึงถูกส่งตัวกลับไปยังสนามบินอตาเติร์กในตุรกี และถูกพาตัวไปไว้ในห้องพักเล็กๆ ที่สนามบิน ซึ่งภายในมีคนกว่า 40 คนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันเขา

หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ต้องอยู่ภายในสนามบินมาตลอด และสภาพความเป็นอยู่ภายในนั้นก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดเลย โดยเขาเปิดเผยว่าห้องที่เขาอาศัยอยู่นั้นไม่มีหน้าต่างทำให้เขาไม่เห็นแสงอาทิตย์มานานกว่า 8 เดือน ทั้งยังทำให้ร่างกายเขาแย่มาก เพราะเค่เดินเพียง 300 เมตรเขาก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ทนไม่ไหวขอลี้ภัยไปยังเลบานอน แต่สุดท้ายก็ถูกส่งตัวกลับมายังสนามบินตุรกีอยู่ดี

ชีวิตแต่ละวันของเขาหมดไปกับการดูภาพยนตร์ผ่านไอแพดและอ่านหนังสือ สุดท้ายหลังจากทนมาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ประเทศออสเตรเลียก็ยินดีรับเขาในฐานะผู้ลี้ภัย และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเขาก็ถูกส่งตัวไปยังออสเตรเลียแล้ว

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...