5 ชาละวันแห่งยุคบรรพกาล ที่อยู่เหนือจินตนาการของคุณ

https://www.yaklai.com/featured/5-prehistoric-crocs/

5 ชาละวันแห่งยุคบรรพกาล ที่อยู่เหนือจินตนาการของคุณ

 

หลายคนคงเคยเห็นฟอสซิลขนาด 11 เมตรของ Sarcosuchus หรือ Mega Croc จระเข้ร่างยักษ์ที่เคยอาศัยอยู่บนโลกใบนี้และล่าไดโนเสาร์เป็นอาหาร แต่นอกจากพี่เบิ้มรายนี้แล้ว นักบรรพชีวินวิทยายังได้ค้นพบโครงกระดูกของเหล่าชาละวันชุดใหม่ในทะเลทรายซาฮาร่า ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นบ้านของเหล่าจระเข้ที่ไม่เพียงมีรูปร่างที่แปลกตา แต่ยังคาดว่าพฤติกรรมของพวกมันยังน่าสนใจและเกินกว่าที่มนุษย์จะสามารถจินตนาการโดยใช้ความรู้ของจระเข้ยุคใหม่มาอธิบายได้

BoarCroc

ด้วยความยาว 20 ฟุตและชุดเขี้ยวขนาดมหึมาที่ยาวแหลมเลยสันปากเหมือนหมูป่า ที่กลายมาเป็นชื่อเล่นของชาละวันตัวนี้ ที่ไม่เพียงแต่เฝ้ารอเหยื่อในน้ำเหมือนจระเข้ทั่วไป แต่ยังสามารถกระโจนขึ้นมาบนบกและออกวิ่งด้วยความเร็วที่มากพอจะตามตะครุบไดโนเสาร์กินพืชที่ไม่ทันระวังตัว และสังหารด้วยชุดเขี้ยวที่แข็งแรงมากจนสามารถเจาะทะลุผิวหนังและหักกระดูกของเหยื่อร่างใหญ่ได้ในพริบตา

RatCroc

เราอาจคุ้นเคยว่าจระเข้เป็นสัตว์กินเนื้อ แต่หากย้อนกลับไปดูบรรพบุรุษยุคเริ่มแรกของเหล่าชาละวัน คุณจะพบกับสัตว์กินพืชขนาด 3 เมตร ที่มีเกราะแข็งปกคลุมร่างกายและแทบไม่มีพิษมีภัยใดๆ และแม้ทุกวันนี้จะไม่มีชาละวันที่นิยมมังสวิรัติเหลืออยู่บนโลกแล้ว แต่จากการค้นพบโครงกระดูกและชุดฟันของ RatCroc ทำให้นักบรรพชีวินวิทยาสามารถยืนยันได้ว่า นี่คือจระเข้ที่ใช้ฟันหน้าลักษณะพิเศษเพื่อขุดรากไม้และตัวอ่อนแมลงในดินกินเป็นอาหาร

PancakeCroc

ชื่อนี้มิได้มาเพราะโชคช่วย แต่เพราะฟอสซิลที่พบซึ่งระบุถึงลักษณะปากที่แบนกว้างและมาพร้อมชุดฟันซี่เล็กๆ ทำให้นักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่า PancakeCroc ใช้ปากแบนๆ ของมันอ้าค้างไว้และลอยตัวนิ่งๆ ที่ผิวน้ำได้นานหลายชั่วโมงเพื่อรอคอยให้มีปลาสักตัวว่ายผ่านเข้ามาอาศัยร่มเงาจากปากบน ซึ่งเป็นสัญญาณให้เจ้าชาละวันตัวนี้ปิดปากลงมา เพื่อเขมือบเจ้าปลาโชคร้ายนั้นเป็นอาหาร

DuckCroc

ด้วยความยาว 3 ฟุต และลักษณะของปากกับฟันที่ไม่คล้ายกับจระเข้ยุคใหม่ ทั้งนักบรรพชีวินวิทยาไม่กล้าฟันธงเกี่ยวกับพฤติกรรมของ DuckCroc ในช่วงแรกที่มีการค้นพบ แต่เมื่อมีการค้นพบฟอสซิลของแมลงน้ำ และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในบริเวณที่มีการค้นพบฟอสซิลและมีช่วงอายุใกล้เคียงกัน ซึ่งเมื่อน้ำมารวมกับชุดฟันของชาละวันโบราณตัวนี้ ทำให้นักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่า DuckCroc น่าจะหากินตามพื้นที่ชายน้ำโดยล่าสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร และใช้ปากกับฟันลักษณะพิเศษในการบดเคี้ยว ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่ปรากฏในจระเข้สายพันธุ์อื่นเลย

DogCroc

ไม่เพียงแค่ RatCroc เท่านั้นที่ขุดเผือกขุดมันกินเป็นอาหาร ยังมีชาละวันอีกชนิดหนึ่งที่ตัวใหญ่กว่า RatCroc และยังจระเข้กินพืชที่นักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่า DogCroc นั้นสามารถดมกลิ่มได้ เนื่องจากลักษณะจมูกของเจ้าชาละวันตัวนี้มีลักษณะยื่นไปข้างหน้าคล้ายกับสุนัข และมีโพรงจมูกภายในที่ใหญ่กว่าจระเข้ด้วยกันมาก ซึ่งอาจจะช่วย DogCroc สามารถตามกลิ่นอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินได้

ข้อมูลจาก : SpkeDark.TV

 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...