จุดจบชีวิตของ"ฮิตเลอร์"ผู้นำพรรคนาซี ช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

Adolf Hitler ผู้นำพรรคนาซีจอมเผด็จการที่ไม่มีใครในโลกไม่รู้จัก แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปนานแล้วแต่เรื่องราวและชีวประวัติของเขากลับยังคงอยู่ ทั้งยังมีปริศนาอีกมากมายเกี่ยวกับตัวเขาที่ยังรอการพิสูจน์อยู่ โดยไม่กี่วันก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้นตามประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า ขณะที่เขาอยู่ในห้องลับใต้ดินลึกกว่า 3,000 ฟุต เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่าอาณาจักรและอุดมการณ์ของเขาจะยังคงอยู่ไปอีกนานนับ 1,000 ปี แต่ฮิตเลอร์กลับครองเยอรมันได้เพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น และวันสุดท้ายคือ 30 เมษายน 1945 หลังจากกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรล้อมกรุงเบอร์ลิน ฮิตเลอร์และภรรยาของเขาก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายภายในบังเกอร์

โดยหนึ่งวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ฮิตเอลร์อายุ 56 ปีและตัดสินใจแต่งงานกับ Eva Braun วัย 33 ปี หลังจากเข้าพิธีแต่งงานช่วงเวลาสั้นๆ ฮิตเลอร์ก็เตรียมตัวประกาศเจตนารมณ์ครั้งสุดท้ายพร้อมกับ Traudl Junge เลขาคนสนิทว่า

"สิ่งที่เป็นของข้าพเจ้าและพรรคจะต้องไม่ปรากฎและถูกทำลายไปพร้อมกับรัฐ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากข้าพเจ้า ตัวข้าพเจ้าและภรรยาเลือกความตายมากกว่าการหลบหนี แม้มันจะเป็นการยอมจำนวนที่น่าอัปยศก็ตาม ความต้องการของเราคือถูกเผาในที่ที่เราสร้างมากับมือตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาที่เราอุทิศตัวให้กับประชาชน"

และในเย็นวันนั้นฮิตเลอร์ก็ทราบข่าวว่า Benito Mussolini เพื่อนร่วมอุดมการณ์ชาวอิตาลีถูกกองกำลังปาติซานที่ต่อต้านระบบเผด็จการฟาสซิสต์สั่งประหารชีวิต

ซึ่งหลังจากที่ฮิตเลอร์แต่งงานเป็นเวลา 40 ชั่วโมง เขากับภรรยาก็นั่งข้างกันบนโซฟา ก่อนจะกินไซยาไนต์และใช้ปืนยิงเข้าที่ศีรษะ โดยนักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่า เขาจ่อยิงหัวภรรยาก่อนแล้วจึงยิงตัวเองตาม

ทั้งหลังจากนั้นรัสเซียยังอ้างอีกด้วยว่ามีกะโหลกศีรษะของฮิตเลอร์ที่มีรูกระสุนที่กะโหลกไว้ในครอบครอง และนำมาจัดแสดงในกรุงมอสโกเมื่อปี 2000 แต่แท้จริงแล้วนั้นหลังจากนั้น 10 ปีต่อมานักวิจัยชาวอเมริกันได้ตรวจ DNA ของกระโหลกศีรษะก็พบว่า มันเป็นกะโหลกศีรษะของหญิงวัย 40 ปีไม่ใช่กะโหลกศีรษะของฮิตเลอร์แต่อย่างใด

หลังจากที่ฮิตเลอร์เสียชีวิต ทหารพรรนาซีก็ทำตามคำสั่งเสียของฮิตเลอร์ที่บอให้เผาร่างของเขาทันที โดยศพของฮิตเลอร์และภรรยาของเขาถูกห่อไว้ในผ้าห่มและวางลงบนกองฟืน โดยมีพลโท Otto Günsche เป็นผู้จุดไฟเผาร่าง ซึ่งการฆ่าตัวตายของฮิตเลอร์นั้นแม้ว่าจะทำให้เขาถูกฝ่ายสัมพันธมิตรตราหน้าว่า "ไอ้ขี้ขลาด" แต่ฮิตเลอร์ตัดสินใจทำลงไปก็เพื่อไม่ให้ถูกจับเป็นเชลยศึกและไม่ต้องทนเห็นอาณาจักรที่เขาสร้างขึ้นมาล่มสลายไปกับตานั่นเอง...

ข้อมูลและภาพประกอบจาก "businessinsider"

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...