5 ของก้นครัว กำจัดกลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้าได้อยู่หมัด

       ตู้เสื้อผ้ามักถูกปิดอยู่เสมอ และนั่นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้ง่าย การซักทำความสะอาดเสื้อผ้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการเกิดกลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้า แต่ Sanook! Home มีอีกหลายวิธีแนะนำที่จะทำให้ตู้เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นเหม็นอับรบกวน

1.เบกกิ้งโซดา นอกจากใช้กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นได้ดีแล้ว กลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้าก็จะดีขึ้นหากใช้เบกกิ้งโซดาเข้ามาช่วย โดยวางผงเบกกิ้งโซดาไว้ตามชั้นที่วางเสื้อผ้า หรือที่ๆ อากาศเข้าถึง โดยต้องมั่นใจมือของคุณจะไม่ไปโดนให้เกิดการตกหล่น และยังต้องหมั่นเปลี่ยนผงเบกกิ้งโซดาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังสามารถนำผงเบกกิ้งโซดาโรยบนพรมหรือรองเท้าที่มีกลิ่นได้อีกด้วย

2.ถ่านกัมมันต์ ผลิตภัณฑ์จากคาร์บอนที่มีคุณสมบัติในการดูดซับ และคุณสมบัตินี้สามารถช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ด้วย และมันยังสามารถดูดชนิดของกลิ่นต่างๆ ได้หลากหลายกว่าที่ผงเบกกิ้งโซดาทำได้ แต่คุณจะต้องเปลี่ยนมันเป็นประจำ เพราะไม่เช่นนั้นเมื่อตัวมันเริ่มอิ่มตัวก็จะมีกลิ่นเฉพาะของมันออกมาด้วยเช่นกัน

3.น้ำส้มสายชู เทน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ใส่ลงในชามแล้วนำชามนั้นไปวางไว้ที่พื้นตู้เสื้อผ้า ปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน วิธีการเดียวกันนี้คุณสามารถใช้สารฟอกขาวแทนก็ได้ แต่กลิ่นของมันอาจจะฉุนกว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ และมันยังอันตรายกว่า สำหรับวิธีการกำจัดกลิ่นเพิ่มเติมคือการเติมน้ำส้มสายชูลงในถังประมาณครึ่งถ้วยผสมกับน้ำอุ่นและนำไปขัดผนังตู้เสื้อผ้า

4.กากกาแฟ เป็นของที่สามารถกำจัดกลิ่นเหม็นได้ดี ถ้าเป็นเม็ดสดก่อนปั่นจะยิ่งดี แต่ถ้าเรามีกากกาแฟก็ให้นำมันใส่ชามแล้วนำไปตั้งไว้ที่พื้นตู้เสื้อผ้า ปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ข้ามคืน และถ้าอยากได้กลิ่นหอมอื่นๆ ก็เติมกลิ่นนั้นเข้าไปเช่นกลิ่นวานิลา วิธีนี้ใช้สำหรับกำจัดกลิ่นบุหรี่ได้เช่นกัน

5.สิ่งที่ปกป้องไม่ให้เกิดกลิ่น ยังมีของอีกหลายอย่างที่ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้า แม้แต่การใช้ก้อนสำลีจุ่มลงไปในกลิ่นวานิลา หรือน้ำมะนาว หลังจากนั้นวางมันไว้ในตู้เสื้อผ้า รวมไปถึงการทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวเล็กน้อย หรือคุณสามารถใส่ถุงบุหงาเข้าไปในตู้เสื้อผ้าได้ด้วย

คราวนี้คงได้วิธีแก้กลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้ากันแล้วใช่ไหมคะ

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://motherhood.modernmom.com

ภาพจาก www.istockphoto.com

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...