อินทรชิต ยักษ์ ใน รามเกียรติ์ และพรรณไม้พระราชทาน

อินทรชิต

ตำนานยักษ์ในรามเกียรติ์

ส่วนใหญ่จะมีใบหน้าสีเขียว แต่ก็มีแบบใบหน้าสีทองเช่นกัน ปากขบตาโพลง เขี้ยวคุด ตอนเด็กสวมกะบังหน้ามีเกี้ยวรัดจุก ส่วนตอนโต สวมชฎามนุษย์ หรือชฎายอดกาบไผ่ สำหรับจอนหูนั้นมี ๒ แบบ คือ จอนหูแบบมนุษย์ และจอนหูแบบยักษ์

เป็นโอรสของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ มีนิสัยดุร้าย และเกเร ถอดแบบมาจากพ่อ แต่เดิมชื่อ รณพักตร์ ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น อินทรชิต เพราะไปรบกับพระอินทร์ จนได้ชัยชนะ ถือเป็นคู่ปรับของ พระราม และ พระลักษมณ์ ที่มีฤทธิ์เดชร้ายกาจ เนื่องจากได้พรจาก พระอิศวร พระพรหม และพระนารายณ์

แต่ที่สำคัญคือ พรจากพระพรหมว่า หากสิ้นชีพแล้ว เศียรจะตกถึงพื้นไม่ได้ มิฉะนั้น จะเกิดไฟไหม้ขึ้นทั่วทั้งจักรวาล ส่งผลให้ศึกครั้งสุดท้ายกับพระราม ต้องอาศัยองคต ไปนำพานจากพระพรหมธาดา มารองรับเศียรอินทรชิต หลังจากต้องศรของพระลักษมณ์ ณ เนินเขาจักรวาล

อินทรชิตหรืออีกนัยหนึ่งคือรณพักตร์ เป็นโอรสของ
ทศกัณฐ์และนางมณโฑ เป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์มาก ดุร้าย
เกเรเหมือนพ่อ มีชายาชื่อสุวรรณกันยุมา รบกับ
พระอินทร์จนพระอินทร์พ่ายแพ้ จึงได้ชื่อว่าอินทรชิต
(ผู้พิชิตพระอินทร์) ออกสู้พระรามและพระลักษมณ์
ถึง ๕ ครั้ง แต่ละครั้งทำฝ่ายข้าศึกย่ำแย่ไปตามๆกัน
ในการสู้รบครั้งหลังเกิดเสียทีถูกพระลักษมณ์แผลง
ศรพรหมาสตร์ แต่เนื่องจากอินทรชิตได้พรจาก
พระพรหม ว่าถ้าสิ้นชีพเศียรจะตกต้องพื้นไม่ได้
จะกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก รอกจากจะมี
พานแว่นฟ้ามาลองรับเท่านั้น องคตจึงรับบัญชาจาก
พระรามไปนำพานแว่นฟ้าจากพระพรหม แม้อินทรชิต
จะถูกศรจนแขนขาขาดกระเด็น แต่ก็ยังไม่ตาย ในที่สุด
พิเภกก็ทูลให้พระรามแผลงศรพรหมาสตร์ทำลายเศียร
อินทรชิตกลางอากาศ อินทรชิตจึงสิ้นทธิ์

*******************

อินทรชิต

ยังเป็นชื่อพรรณไม้..

พระราชทานของจังหวัดนครสวรรค์

อีกด้วยนะครับ

พรรณไม้พระราชทานจังหวัดนคร สวรรค์ อย่างอินทรชิต เป็นพรรณไม้ที่มีประโยชน์ เนื่อง จากเป็นไม้เนื้อแข็ง ใช้ทำเครื่องแกะสลัก และปลูกเป็นไม้ประดับ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lagers troemia loudonii Teijsm.&Binn. อยู่ในวงศ์ LYTHRA CEAE มีชื่ออื่นๆ ว่า เกียบ ตะเกรียบ ตะแบกขน เสลาใบใหญ่ เสลา

อินทรชิต เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 10-20 เมตร เรือนยอดกลม ทึบ กิ่งมักย้อยห้อยลง เปลือกสีเทาดำ มีรอยแตกเป็นทางยาว ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม แผ่นใบรูปขอบขนาน กว้าง 6-10 ซ.ม. ยาว 16-24 ซ.ม. ปลายเรียวแหลมเป็นติ่ง ใบมีขนนุ่มทั้ง 2 ด้าน ดอกสีม่วง ม่วงอมชมพู หรือม่วงอมขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 ซ.ม. ผลรูปกลมรี ผิวแข็ง ยาวประมาณ 2 ซ.ม. ผลแห้งแตกตามยาว 5-6 พู เมล็ดจำนวนมากมีปีก