10 อันดับความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับความตายที่ยังคงเป็นปริศนา ละเมื่อมนุษย์ที่ยังมีชีวิตขอพิสูจน์ และความจริงเหล่านี้จึงปรากฎ

 

1.ผมและเล็บยาวขึ้นแม้ตายไปแล้ว

 

เรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง ที่ผมและเล็บยาวขึ้นหลังตายไปแล้วเป็นเพียงภาพลวงตา สาเหตุเพราะผิวหนังและรูขุมขนรอบๆเล็บ เกิดการหดตัวลง เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำออกจากร่างกายนั่นเอง 

 

2.แสงสว่างสีขาวที่ปลายอุโมงค์

 

เราจะมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เมื่อถึงเวลาที่เราใกล้ตาย เพราะเรารู้สึกสงบตอนใกล้ตาย แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะความจริงแล้วตอนใกล้ตายจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงทำให้เกิดภาพหลอน 

 

3.ความตายเจ็บปวดเสมอ 

 

บางคนอาจรู้สึกทรมาณเวลาตาย แต่ก็มีคนจำนวนมากที่เสียชีวิตลงโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย 

 

4.จมน้ำตายเป็นวิธีตายที่สบายที่สุด

 

เพราะในนิยายเขียนให้การจมน้ำเป็นวิธีการตายแบบโรแมนติก แต่จริงๆแล้วเป็นวิธีการตายที่น่ากลัวที่สุด คุณไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คุณอาจจะร้องไห้ขณะที่สติสัมปัชชัญญะดับวูบ 

 

5.ให้เด็กอยู่ห่างจากคนที่ใกล้ตาย

 

คำแนะนำจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การที่ให้เด็กได้พูดคุยกับคนใกล้ตายอาจเป็นเรื่องที่ดี เพราะ ความตายจะไม่ใช่เรื่องลี้ลับสำหรับพวกเขาอีกต่อไป

 

6.เราได้ขึ้นสววรค์

 

นักฟิสิกส์คนหนึ่งเคยพูดเอาไว้ว่าการที่เราจะได้ขึ้นสรรค์หรือพบชีวิตหลังความตายเป็นเพียงแค่เทพนิยาย เท่านั้นเอง

 

7.การเผาศพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ความจริงแล้วการเผาศพได้ส่งแก๊สพิษมากมายสู่อากาศ ซึ่งแก๊สที่ปล่อยออกมานั้นมีทั้งกรดไฮโดรคลอริค ซัลเฟอร์ไดออกไซค์ สารเคมีจากของเหลวที่อยู่ในร่างกาย

 

8.เราตายแต่วิญญาณยังอยู่

 

จริงอยู่ที่เราทุกคนต้องตาย แต่นักฟิสิกส์ได้ค้นพบว่า พลังงานไม่เคยหายไปไหน ความรู้สึกมีชีวิตของเราก็เกิดจากพลังงานไฟฟาจากคลื่นสมองของเราเอง และพลังงานนี้ก็ไม่สามารถหายไปไหนได้ ดังนั้นการตายจึงเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาตามจินตนาการของเราเท่านั้น 

 

9.ความตายไม่ใช่สิ่งที่ถาวร 

 

ถ้าลองคิดต่อยอดความจริง หากเราไม่ต้องตาย โดยองค์กรใหญ่ทุ่มเงินหลายลานเพื่อแก้ไขความแก่ของมนุษย์ เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถทำให้ความตายไม่ใช่เรื่องทีหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกต่อไป